ถอดบทเรียน ‘โรงฆ่าสัตว์’ ต่างแดน ทำไมเป็นแหล่งแพร่โควิดชั้นดี?

ถอดบทเรียน ‘โรงฆ่าสัตว์’ ต่างแดน ทำไมเป็นแหล่งแพร่โควิดชั้นดี?

ขณะที่ภาพรวมของยุโรปเริ่มมียอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ลดลงแล้ว แต่กลับยังพบการระบาดเพิ่มขึ้นแบบ “คลัสเตอร์” กลุ่มเล็ก ๆ ในสถานที่เดียวกันอย่าง “โรงฆ่าสัตว์” ในประเทศใหญ่ เช่น เยอรมนีและสหราชอาณาจักร จึงน่าสนใจว่า ทำไมสถานที่แบบนี้ถึงแพร่เชื้อรวดเร็ว

ในสหราชอาณาจักร หลายฝ่ายอาจเริ่มเห็นสัญญาณของจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ 3-4 กลุ่มที่โรงฆ่าสัตว์ในอังกฤษและเวลส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงในสหรัฐช่วงสุดสัปดาห์

กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่า พบการระบาดของโควิดที่โรงงานแปรรูปเนื้อ “โคเบอร์” ในเมืองเคล็กฮีตัน เขตปริมณฑลเวสต์ยอร์กเชียร์

โรงงานแปรรูปเนื้อแห่งนี้ซึ่งเป็นของบริษัท “Asda” (แอสดา) ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ สั่งปิดทำการทันที หลังพบว่าพนักงานราว 150 คนมีผลตรวจโควิด “เป็นบวก” ซึ่งหมายถึงติดเชื้อ ขณะที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของบริษัท “2 Sisters” (ทู ซิสเตอร์ส) ผู้ผลิตอาหารบนเกาะแองเกิลซีย์ ทางเหนือของเวลส์ ได้ขอให้พนักงานกักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบผู้ป่วยโควิด 58 คนในหมู่พนักงานทั้งหมด 560 คน

นอกจากนั้น ในเมืองเร็กซ์แฮม ทางเหนือสุดของเวลส์ พนักงาน 38 คนจากทั้งหมด 1,500 คนที่โรงงานของบริษัท “Rowan Foods” (โรวาน ฟูดส์) มีผลตรวจโควิดเป็นบวกเช่นกัน แต่ทางการเชื่อว่า การระบาดในโรงงานแห่งนี้อาจเป็นการติดเชื้อในพื้นที่ใกล้เคียงมากกว่ารับเชื้อภายในโรงงาน

อย่างไรก็ตาม การระบาดลักษณะนี้ที่โรงฆ่าสัตว์ในสหราชอาณาจักรไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในสัปดาห์เดียวกัน มีโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในเยอรมนีพบพนักงานติดเชื้อไวรัสมรณะถึง 650 คน และมีการระบาดแบบคลัสเตอร์ลักษณะเดียวกันอีก 2 เคสในฝรั่งเศส และเคสล่าสุดในสหรัฐที่ส่งผลให้จีนระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากสหรัฐแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ (21 มิ.ย.) สำนักงานบริหารกลางด้านศุลกากรจีนประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่แช่แข็งจากบริษัท “ไทสัน ฟูดส์” (Tyson Foods) หนึ่งในผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองสปริงเดล รัฐอาร์คันซอ ทางตอนใต้ของสหรัฐ “เป็นการชั่วคราว”

คำสั่งระงับการนำเข้าดังกล่าวมีขึ้นหลังทางการจีนได้รับรายงานว่า คนงานจำนวนมากของไทสัน ฟูดส์ที่โรงงานในเมืองสปริงเดลติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ส่วนสินค้าของไทสัน ฟูดส์ที่ถูกส่งมาถึงจีนก่อนหน้านี้ ได้เข้าสู่กระบวนการอายัดทั้งหมดแล้ว

นอกเหนือจากกรณีคลัสเตอร์ในโรงฆ่าสัตว์แล้ว เหตุการณ์ลักษณะนี้ยังปรากฏให้เห็นที่ตลาด “ซินฟาตี้” ศูนย์ค้าส่งอาหารแห่งใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่งของจีน ไนท์คลับในเกาหลีใต้ และหอพักคนงานต่างด้าวในสิงคโปร์

การแพร่ระบาดของไวรัสภายในโรงงานแปรรูปเนื้อถือเป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในช่วงโรคโควิด-19 ผลวิจัยของวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อนจากมหาวิทยาลัยลอนดอน (LSHTM) ชี้ว่า โรงงานแปรรูปเนื้อเป็นแหล่งแพร่ระบาดในท้องถิ่นขนาดใหญ่ที่สุด รองจากบนเรือและหอพักคนงาน

งานวิจัยดังกล่าวยกตัวอย่างโรงงานแปรรูปเนื้อปลาแห่งหนึ่งในกานา  ที่พบผู้ติดเชื้อโควิดถึง 534 คน และโรงงานแปรรูปเนื้อแห่งหนึ่งในเมืองซูฟอลส์ รัฐเซาท์ดาโกตาของสหรัฐ ที่พบผู้ติดเชื้อ 518 คน

รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เมื่อเดือนที่แล้ว คาดการณ์ว่า พนักงานราว 5,000 คนที่ทำงานในโรงงานแปรรูปเนื้อทั่วสหรัฐ มีผลตรวจโควิดเป็นบวก และบทวิเคราะห์ชิ้นหนึ่งประเมินว่า ราวครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ป่วยโควิดในสหรัฐ อาจสามารถสืบสาวต้นตอการระบาดย้อนไปถึงโรงงานเหล่านี้

 

  • การทำงานไม่เอื้อต่อการป้องกัน

จากการสอบสวนโรคของ CDC พบว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้โรงฆ่าสัตว์หรือโรงงานแปรรูปเนื้อ เป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดีสำหรับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ปัจจัยแรก คือ ด้วยลักษณะการทำงานในโรงงาน ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับพนักงานในการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยเฉพาะหากพวกเขาทำงานในสายการผลิต และการรักษาระยะห่างยังทำได้ยากในห้องพักเบรคของพนักงาน บางโรงงานจึงตั้งพื้นที่พักเบรคนอกตัวโรงงานแทน

อีกปัจจัยคือ ด้วยความจำเป็นในการต้องทำงานอย่างรวดเร็วและความสะดวกด้านร่างกาย จึงเป็นเรื่องยากสำหรับพนักงานที่จะสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะทำงาน ผู้เชี่ยวชาญของ CDC พบว่า พนักงานมักปิดเพียงปากแต่ไม่ปิดจมูกตัวเอง และมักขยับหน้ากากอยู่บ่อยครั้ง

ศาสตราจารย์เจมส์ วูด นักวิจัยด้านการติดเชื้อและการควบคุมโรคจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ บอกว่า ความเร็วของระบบสายการผลิตในโรงงานแปรรูปเนื้อ ทำให้เป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการระบาดของไวรัสมากกว่า

“ถ้าเราเห็นการแพร่เชื้อในโรงฆ่าสัตว์ ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งคือ ความท้าทายในการให้พนักงานเลี่ยงใกล้ชิดกันขณะอยู่ในสายการผลิตที่ต้องทำงานรวดเร็ว และการไหลเวียนของอากาศปริมาณมากภายในโรงฆ่าสัตว์และโรงงานแปรรูปเนื้อหลายแห่ง

นอกจากนี้ งานวิจัยของวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อนจากมหาวิทยาลัยลอนดอน สันนิษฐานว่า สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังในโรงฆ่าสัตว์ ย่อมทำให้พนักงานต้องยืนใกล้กันขณะพูดคุยหรือตะโกนใส่กัน ซึ่งสามารถเพิ่มการแพร่กระจายสารคัดหลั่งได้

 

  • อากาศเย็นไวรัสชอบ

ขณะที่คาลัม เซมเปิล ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพเด็กและวิทยาการระบาดจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล บอกว่า ปัจจัยใหญ่ที่สุดที่เอื้อต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิดในสถานที่แบบนี้คือ สภาพแวดล้อมภายในโรงงาน โรงงานลักษณะนี้มักมีอากาศหนาวจากเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่และปิดมิดชิดจนแสงแดดเข้าไม่ถึง

“ถ้าผมอยากจะเก็บรักษาไวรัส ผมจะเก็บมันในสภาพแวดล้อมที่เย็นซึ่งไม่มีแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เลย โดยเฉพาะโรงงานแปรรูปหรือโรงแช่แข็งเนื้อสัตว์ ถ้าคุณเป็นหวัดหรือมีน้ำมูกซึ่งสะสมเชื้อไวรัส และเมื่อคุณตะโกนในโรงงาน คุณก็จะแพร่เชื้อไวรัสไปทั่ว”

เซมเปิล ระบุว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่พบการระบาดในโรงงานสำหรับผักผลไม้หรือสินค้าอื่น ๆ ดังนั้น อุณหภูมิน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ

“สถานที่สุดเพอร์เฟคท์ในการเก็บเชื้อไวรัสให้อยู่ได้นาน ๆ คือที่ที่มีอากาศเย็นและปราศจากแสงแดด”

------------------------------

อ้างอิง: Telegraph, BBC, France24