กลุ่มสื่อสารอาจมีแรงหมุนมาจากธนาคาร ขณะที่อาหารได้ผลบวกจีนระงับไก่สหรัฐฯ

กลุ่มสื่อสารอาจมีแรงหมุนมาจากธนาคาร ขณะที่อาหารได้ผลบวกจีนระงับไก่สหรัฐฯ

กลุ่มธนาคารอาจสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อตลาด

หลังธปท.แห่งประเทศไทย ออกประกาศห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายปันผลระหว่างกาล รวมถึงห้ามการซื้อหุ้นคืน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลถึงตัวเลขหนี้เสียที่อาจจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากสถานการณ์โควิด ก่อนที่ในเวลาต่อมาธปท.จะชี้แจงเพิ่มเติมว่ามาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ธนาคารมีเงินกองทุนเพียงพอและเป็นแนวทางที่ธนาคารกลางหลายประเทศได้ดำเนินการ ทั้งนี้หากพิจารณาจาก Coverage ratio ของธนาคารที่ต่ำกว่า 120% จะได้แก่ KKP (116%), TMB (106%) และ CIMBT (89%) ซึ่งเรามองว่าธนาคารในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับแรงกดดันทั้งจากภาระการตั้งสำรองที่จะสูงขึ้น และความคาดหวังเกี่ยวกับปันผลจากนักลงทุน จนทำให้อาจเกิดปัญหาความพอเพียงของเงินกองทุน ดังนั้นมาตรการดังกล่าวของธปท. จะช่วยลดแรงกดดันดังกล่าว อย่างไรก็ตามความผิดหวังจากปันผลระหว่างกาล ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนเพียงเดียวของหุ้นธนาคาร จะทำให้หุ้นในกลุ่มมีแรงขายให้ปรับลดลงราว 2-3% (โดยเฉพาะ KKP ที่ปันผลระหว่างการสูง) ขณะที่อาจมีการหมุนไปยังหุ้นที่ให้ปันผลระหว่างการในกลุ่มอื่นแทน อาทิ สื่อสาร

สถานการณ์ระบาดระลอกสองในสหรัฐฯ แย่ลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันช่วง 19-20 มิ.ย.ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.3 หมื่นรายขึ้นไปใกล้เคียงช่วงมี.ค.-เม.ย. ขณะที่ผู้อยู่ระหว่างรับการรักษาอยู่ที่ 1.235 ล้านราย ยังทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ป่วย จะเป็นแรงกดดันต่อความเสี่ยงดำเนินมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัว

จีนระงับการนำเข้าเนื้อไก่ปรุงสุกจากโรงงานของ Tyson Foods Inc. สหรัฐฯ หลังพบคนงานนับร้อยมีการติดเชื้อโควิด และทางการจีนมีการควบคุมสินค้าที่มีการนำเข้ามา สถานการณ์ดังกล่าวคาดจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มอาหารและผู้ผลิตเนื้อสัตว์ ทั้ง GFPT, TFG และ CPF

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) น้ำมันดิบ PTTEP (ต้าน 99-99 ตัดขาดทุน 92.75)

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว1355-1381 โดยอาจผันผวนไปตามข้อมูลการระบาดระลอกสองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คาดกลุ่มสื่อสารมีแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปันผลระหว่างกาล ขณะที่อาหาร ได้แรงบวกจากจีนระงับนำเข้าไก่จากโรงงานในสหรัฐฯ  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF, WHAUP*, THRE*

แนวรับ 1,355 จุด / แนวต้าน : 1,381 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ธปท.ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย มาตรการเพิ่มเติมระยะที่ 2 ส่วนใหญ่มีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. 2563 ดังนี้ 1.) ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป 2–4% ต่อปีสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 2.) เพิ่มวงเงินบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทวงเงินหมุนเวียน โดยขยายวงเงินจากเดิม 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท 3.) มาตรการขั้นต่ำเพิ่มเติมตามประเภทสินเชื่อ เช่น เปรียบเทียบภาระหนี้เดิมและหนี้ใหม่ จำนวนหนี้และจำนวนงวดที่เพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มจากการขอเลื่อนชำระหนี้ 4.) บรรเทาภาระลูกหนี้โดยปรับปรุงโครงสร้างหนี้

APPLE ประกาศปิดร้านค้าบางส่วนในสหรัฐฯ – บริษัท APPLE ประกาศปิดร้านค้าในสหรัฐฯ บางส่วนอีกครั้งหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 กลับมาดีดตัวสูงขึ้น โดยจะเริ่มปิดร้านในรัฐ Florida, North Carolina, South Carolina และ Arizona โดยทันทีอย่างยังไม่มีกำหนดเปิด

ไม่ขยาย SSFX – กระทรวงการคลังหม่เห็นด้วยขยายเวลากองุนลดภาษี SSFX ถึงสิ้นปี ขณะที่ตลท.เสนอก.ล.ต.ขยายเวลาเกณฑ์ขายชอร์ต (uptick rule) จนถึง ก.ย.63

ประเด็นติดตาม: 23 มิ.ย. – US PMI เดือนมิ.ย. / 24 มิ.ย. – TH Industrial Production/ประชุม กนง / 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)