'SANOOK SIAM' สร้างแบรนด์เพิ่มคุณค่าผ่านวัฒนธรรม

'SANOOK SIAM' สร้างแบรนด์เพิ่มคุณค่าผ่านวัฒนธรรม

“SANOOK SIAM” ผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมระเหยฝีมือคนไทย ยกระดับชูความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างสร้างสรรค์งานผ่านไลฟ์สไตล์ สื่อสารผ่านกลิ่นสัมผัสทางวัฒนธรรม 4 ภาค ผ่อนคลายด้วยอโรมาเธอราพี พร้อมสะท้อนภาพประเพณีการละเล่นสไตล์จิตรกรรมไทยที่โดดเด่นอยู่บนบรรจุภัณฑ์

ตลาดสินค้าทางวัฒนธรรม

การหาเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้กับแบรนด์พร้อมกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดน่านน้ำสีแดง (Red Ocean) ที่มีคู่แข่งขันทางการตลาดสูง ลำพังเพียงผลิตภัณฑ์ที่โดนใจคงไม่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มากกว่า “ประโยชน์ใช้สอย” ดังนั้น การสร้างประสบการณ์ผ่านตัวผลิตภัณฑ์ และเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์ คือสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่สามารถมองข้ามได้ วันนี้จึงขอนำเสนออีกหนึ่งแนวคิดในการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ผ่านผลิตภัณฑ์ “ก้านไม้หอมระเหย” ภายใต้แบรนด์ “SANOOK SIAM” ที่มีคู่แข่งขันทางการตลาดมากมายมาให้คุณผู้อ่านได้เรียนรู้กันครับ

159274407878

“SANOOK SIAM” ก่อตั้งโดยคุณวิว - โรฒวศิน รัตนะเสาวคนธ์ ที่นำประสบการณ์จากการเป็นอาจารย์พิเศษ และวิทยากรบรรยายร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาวัฒนธรรมด้านการสร้างมูลค่าทางปัญญามาต่อยอดแนวคิดสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์

โดยพบว่า “สินค้าทางวัฒนธรรมยังมีช่องว่างทางการตลาดให้เราได้นำเสนอ และส่วนตัวเป็นคนชอบเครื่องหอมด้วย จึงนำคุณค่าทางวัฒนธรรมมาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ก้านไม้หอมระเหย เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ พร้อม ๆ กับเผยแพร่วัฒนธรรมในรูปแบบงานไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของผู้คนที่อยู่ในภาวะเครียดจากปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่”

การใช้ก้านไม้หอมระเหยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ง่ายต่อการใช้งาน และมีส่วนช่วยลดภาวะตึงเครียด ปัญหาการนอนไม่หลับ เป็นการผ่อนคลายด้วยอโรมาเธอราพี โดยใช้กลิ่นในการปรับสมดุลด้านอารมณ์ให้กับร่างกาย

 

บรรจุภัณฑ์เล่าเรื่องท้องถิ่น

สิ่งที่โดดเด่น และถือว่าเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ SANOOK SIAM คือ การนำความสนุกในแบบมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน และความประทับใจไปกับความสนุกของประเพณีที่งดงามของแต่ละภาคมาสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ โดยนำเสนอแนวคิดออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.การสื่อสารผ่านกลิ่นสัมผัสทางวัฒนธรรม ทีมงานเพิ่มคุณค่าลงบนผลิตภัณฑ์โดยหยิบนำวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาคมาสร้างกลิ่นสัมผัสที่ร่วมสมัย เช่น ภาคกลาง กับกลิ่น JOY : ดินแดนสุวรรณภูมิ เหลืองทองอำไพ สื่อสารผ่านด้วยกลิ่นมะม่วงที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน มีความหอมเบา ๆ ชื่นใจ นุ่มละมุน และเติมความร่วมสมัยจากการเป็นเมืองที่มีผู้คนทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมเยือนด้วยกลิ่นโรสแมรี่ ภาคใต้ กับกลิ่น Energize : ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างกลิ่นโหระพา และเปปเปอร์มินต์ เพื่อสื่อถึงภูมิภาคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกาย พลังใจ ผ่านวัฒนธรรมที่มีสีสันสดใส กลิ่นสัมผัสจึงมีความเย็นสบายเหมือนนั่งอยู่ในพื้นที่โล่ง ๆ กว้าง ๆ สบาย ๆ

159274409614

ภาคเหนือ กับกลิ่น Happiness : กลิ่นฟุ้งจรุงใจแบบดอกไม้ฉ่ำ ๆ แฝงด้วยความสดใสเย็น ๆ และการร่ายรำด้วยเพลงสล้อซอซึงที่ผู้รำนิยมทัดดอกกล้วยไม้ที่หู จึงเป็นที่มาของกลิ่นดอกกล้วยไม้ที่ผสานเข้ากับกลิ่นเสาวรสช่วยเพิ่มความสนุกเข้าไปในกลิ่น และ ภาคอีสาน กับกลิ่น Wealth : นำทับทิมที่มีความสดใสสะท้อนถึงภูมิภาคที่มีสีสันผสมผสานกับกลิ่นวานิลลา ที่สื่อถึงความคลาสสิค เป็นการเล่าถึงแดนดินถิ่นอีสานให้มีความสากลมากขึ้น

ชูเอกลักษณ์ ผสานความเป็นไทย

2.การสื่อสารผ่านเรื่องราวบนบรรจุภัณฑ์ ทีมงานนำภาพสไตล์จิตรกรรมไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเป็นที่จดจำของชาวต่างชาติมาร้อยเรียงเป็นภาพบนบรรจุภัณฑ์พร้อมสอดแทรกเนื้อหา “ความสนุก” ผ่านภาพประเพณี และการละเล่นในแต่ละภูมิภาคเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นภาพวัฒนธรรมที่ชัดเจน เช่น ภาพมโนราห์ ศิลปะการแสดงพื้นเมืองของชาวภาคใต้ ภาพประเพณีบุญบั้งไฟของพี่น้องชาวอีสาน หรือเสาชิงช้าที่สื่อถึงภาคกลาง กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

159274411691

ในส่วนของช่องทางการจำหน่าย ทีมงานเลือกแหล่งช้อปปิ้ง เช่น ไอคอนสยาม เซ็นทรัลแอมบาสซี่ และสถานที่ท่องเที่ยวเป็นพื้นที่ขายเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวเป็นหลัก พร้อมสื่อสารพูดคุยกับผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรมโดยวางเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Wellness & Spa เพิ่มเติมในอนาคต เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ แชมพู น้ำมันนวด และของตกแต่ง

คุณวิวฝากข้อคิดที่น่าสนใจว่า “วัฒนธรรมที่งดงามของไทย ยังมีเรื่องราวและประเพณีอีกมากมายที่รอให้ผู้ประกอบการนำมาสร้างสรรค์ผ่านผลิตภัณฑ์ และ/หรืองานบริการในรูปแบบต่าง ๆ ลองเปิดใจ แล้วเข้ามาค้นหาพร้อมหยิบนำวัฒนธรรมที่ดีงามส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการสื่อสารเรื่องราวดี ๆ ของคนไทยสู่ผู้คนทั่วโลกอีกด้วย”