Sideway

Sideway

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ลบกว่า 18 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่าย

ประกอบกับเริ่มมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาฯ หลังจาก รฟม.เตรียมเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม-สีม่วงใต้ ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,372.98 จุด (-3.20 จุด) Volume 7.0 หมื่นลบ. โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,376.18 จุด (+9.05 จุด) Volume 7.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,860.54 ลบ. TFEX Net –11,020 สัญญา ตราสารหนี้ +11,492 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 88 เซนต์ +2.3% ปิดที่ 38.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับรายงานกลุ่มโอเปกพลัสปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิต

+ตัวเลขศก.สหรัฐบ่งชี้ว่าฟื้นตัว อาทิ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือนพ.ค. ดีดตัวจากระดับต่ำสุดในเดือนเม.ย. ดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย.

+ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% และขยายวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อีก 1 แสนล้านปอนด์

+ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม พ.ค. ขยับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

+ทองคำปรับตัวลงสวนทางกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 39.51 จุด -0.15% ผิดหวังตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐสูงเกินคาด และกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและจีน

-IMF เตรียมเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก 24 มิ.ย. มองเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวใน Q2 รุนแรงกว่าคาด ส่วนเศรษฐกิจจีนแม้ขยายตัวต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงยังคงอยู่ในช่วงขาลง

-ADB คาดการณ์เศรษฐกิจไทในปี 63 ติดลบ 6.5% จากเดิมคาดติดลบ 4.8%

-ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ค.63 ลดลง 69.1%yoy แต่เพิ่มขึ้นถึง 126.76%mom ยอดส่งออก 5M63 ลดลง 35%

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 3.45 จุด +0.12%

-ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 100.30 จุด -0.45%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.0 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.09 บาท/US

*จับตาส.อ.ท.พบนายกฯ เสนอมาตรการฟื้นฟู-เยียวยาผลกระทบโควิด-19  อังกฤษเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด นักลทุนยังคงกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ทั้งในสหรัฐ และจีน นอกจากนั้นวันนี้จะมีการปรับน้ำหนักดัชนี FTSE ที่อาจทำให้ตลาดผันผวน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,360-1,385 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

KTC (ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว Bloomberg Consensus 32.93)

(+) การปรับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 ไม่กดดันผลการดำเนินงาน โดยในช่วง 1Q63 มีกำไรสุทธิ 1,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% หากใช้มาตรฐานเดิม โดยมีคชจ.สำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 31% เมื่อเทียบกับการใช้มาตรฐานบัญชีเดิม แม้มี  %NPL เพิ่มขึ้นเป็น 4.01% เทียบกับ  1.21%

(-) มีประเด็นกดดันจากสัปดาห์หน้าธปท.นัดหารือผู้ประกอบการบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล ขอปรับลดดอกเบี้ยลง 2-4% สินเชื่อบัตรเครดิตลดเหลือ 16% จาก 18% และหากแปลงหนี้เป็นสินเชื่อมีระยะเวลาลดดอกเบี้ยเหลือ 12% บัตรกดเงินสดลดดอกเบี้ย 2% เหลือ 26% สินเชื่อส่วนบุคคลลดดอกเบี้ย 3% เหลือ 25% กรณีเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและนอนแบงก์ ลดดอกเบี้ย 6% เหลือ 22% สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลด 4% เหลือ 24% สินเชื่อเช่าซื้อ ลดดอกเบี้ย 1% จากสัญญาเช่าเดิม และสินเชื่อบ้านพักจ่ายเงินต้น 3 เดือนและปรับโครงสร้างหนี้เพื่อลดค่างวดและขยายเวลาชำระหนี้ได้ โดยอาจจะลดเพดานดอกเบี้ยในระยะยาว (คาดธปท.แถลงรายละเอียด 22-23 มิ.ย. (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) Consensus คาด KTC จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อ

(-) เดือนเม.ย. 63 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี -7%YoY -25%MoM  จากที่เติบโตสูงถึง 20% ในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากการกดเงินสดชะลอลงหลังจากเบิกใช้วงเงินจนเต็มแล้ว ขณะที่ยอดรวมใช้บัตร -40%  สะท้อนกำลังซื้อลดลงและผลจากการปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ)

ความเห็น ท่ามกลางภาวะ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 63 เฉลี่ย 5,658 ล้านบาท +2.4%  yield 2.8% ราคาหุ้นที่ลดลง 22%YTD ราคาล่าสุดซื้อขยที่ PBV 3.8 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 3.74 เท่า ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 2.44 เท่า ขณะที่หุ้นได้เข้าคำนวณดัชนี  MSCI  Global Standard ตั้งแต่ 29 พ.ค.  ที่ผ่านมา แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน

  • กลยุทธ์การลงทุน
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากรัฐออกแพ็กเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP)
  • หุ้นเข้าดัชนีFTSE SET Large Cap Index  รอบใหม่มีผล 22 มิ.ย. (CRC DIF)  และเข้าดัชนี SET50 (BPP TTW) 
  • ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นแรงสูงสุดตั้งแต่ ธ.ค.62 (PSL TTA)

 

หุ้นมีข่าว   

(-) AOT (Bloomberg Consensus 60.02 บาท)  ประเมิน COVID-19 กระทบแรง 3 ปี ฟื้นอีกที ต.ค.65 คาดงบปี 63 ผู้โดยสารร่วง 51.3% ปิดที่ 69 ล้านคน เที่ยวบินลด 45.1% ปิดที่ 491,900 เที่ยวบิน ฉุดทั้งปีรายได้ทรุด 50.70% ฟากโบรกฯ ชี้ AOT มองร้ายเกินจริงเพื่อไว้ต่อรองลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายให้ได้ถึง 20% แนะเป็นโอกาสดีช้อนซื้อหุ้น เคาะราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 78 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) VNG (Bloomberg Consensus - บาท)  ผู้ถือหุ้น VNG โหวตหนุนแผนเพิ่มทุน 223.85 ล้านหุ้น ขาย RO ในอัตรา 7 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคา 3.75 บาท/หุ้น หลังรายใหญ่ประกาศชัด พร้อมเติมเงินตามสัดส่วน ตอกย้ำความเชื่อมั่นธุรกิจ หวังตุนสภาพคล่องกว่า 840 ล้นบาท ด้าน วรรธนะมั่นใจการเพิ่มทุนช่วยให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น ลุยขยายธุรกิจตามแผน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AUCT (Bloomberg Consensus 6.75 บาท)  มั่นใจ รายได้ปีนี้ยังเติบโตตามปริมาณรถเข้าประมูลเพิ่ม เป็นผลมาจากเศรษฐกิจชะลอหนุนให้หนี้เสียเพิ่มขึ้นสูงพร้อมปรับแผนสู่การประมูลระบบออนไลน์ รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ADB (Bloomberg Consensus - บาท) ลุ้นงบครึ่งปีหลังฟื้นตัว จากงานภาครัฐหนุนธุรกิจพลาสติกคอมปาวด์ดีขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์ พร้อมเน้นการสร้างอัตรากำไรให้ดีขึ้น บริหารต้นทุน-ลดค่าใช้จ่าย-ชะลอการลงทุน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) CBG (Bloomberg Consensus  108.89 บาท) วางงบการตลาด 200 ล้านบาท ดันเครื่องดื่มวิตามินซี "วู้ดดี้ ซี+ล็อค" รสส้ม ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เตรียมบุกร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านขวด พร้อมเดินหน้าขยายไลน์สินค้า เพิ่มส่วนแบ่งตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CK (Bloomberg Consensus 22.81) "ศักดิ์สยาม" ลั่น ชัดเจนแล้ว รฟม.ประกาศ TOR ประมูลสายสีส้มตะวันตก 1.1 แสนล้าน กรกฎาคมนี้ ประกาศผู้ชนะปีนี้ เตรียมประมูลงานโยธาสีม่วงใต้กันยายนต่อเนื่อง ได้ผู้ชนะปีนี้เช่นกัน เข้าทาง CK-BEM เต็มๆ (ที่มาทันหุ้น)

ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วง ทั้งนี้ บริษัทสนใจเข้าร่วมชิงงาน 1) รถไฟทางคู่เด่นชัย เชียงของ และขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท 2) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และส้มตะวันตกมูลค่ารวม 1.74 แสนล้านบาท 3) งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มูลค่า 4 พันล้านบาท และ 4) เขื่อนหลวงพระบางของบริษัท CKP มูลค่างาน 8 หมื่นล้านบาทเพื่อเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาใกล้ราคาเหมาะสม Consensusu เราจึงแนะนำให้ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

(+) STEC (Bloomberg Consensus 18.36 บาท) คิกออฟโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา นายกฯ นั่งประธานพิธีเซ็นสัญญาลงทุน ชี้โปรเจ็กต์ยักษ์มูลค่า 3 แสนล้านบาท เบื้องต้นเฟสแรกก่อสร้าง 20,000 ล้านบาท ส่องเป้าหุ้นรับประโยชน์ STEC-CK-SEAFCO-BA เจาะลึกกลยุทธ์ลงทุน STEC (ที่มา ทันหุ้น)