อ่อนตัว

อ่อนตัว

Selective Buy/Sell (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1388 / 1395 จุด แนวรับ 1365 / 1358 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายปานกลาง เนื่องจากการไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเป็นทิศทางขึ้นหรือร่วงแรง อิงสัญญาณเทคนิคที่เป็น Neutral และรอความชัดเจนการระบาดรอบสองในสหรัฐฯ และจีน

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

      1) ทางเทคนิค ตลาดหุ้นไทยอยู่ในโหมดออกด้านข้าง เพื่อรอสัญญาณชี้นำว่าจะไปในทางขึ้นหรือลงแรง

      2) ผู้นำอียูเริ่มประชุมวันแรก หารือกองทุน Recovery Fund วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร

      3) BOE คาดเพิ่มมาตรการ QE เพิ่มอีก 1 แสนล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: UK-ผลประชุม BOE Meeting คาดคงดอกเบี้ยฯ และเพิ่มทำ QE อีก 1 แสนล้านปอนด์ เป็น 7.45แสนล้านปอนด์, USA-ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาด 1678k (Vs สัปดาห์ก่อน 2002k) Phil Fed Mfg. Index เดือน มิ.ย. อยู่ที่ -23 (VS เดือน พ.ค. -43.1), Switzerland/Indonesia/Taiwan-ผลประชุมธนาคารกลาง

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่สอง: ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบ 1358-1381 จุด ก่อนแรลลี่ในภาคบ่ายมาปิดที่ 1376.18 จุด +9.05 จุด +0.66% วอลุ่ม 7.15 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มเกษตรฯ +3.7% รับเหมาฯ +2.2% อาหาร +1.9% หลักทรัพย์ที่พุ่ง > 5% ได้แก่ MINT STA SUPER WHA RBF AMATA TKN PTG TSE THCOM MEGA SMT SFLEX SHREIT GCAP BEC

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดคละ: การวิตกต่อการระบาดรอบสองของ COVID-19 ในสหรัฐฯ และจีน ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยกเว้น Nasdaq นำลงโดยกลุ่มธนาคาร พลังงาน เรือสำราญ DJ -0.65% S&P500 -0.36% Nasdaq +0.15% ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ปรับสูงขึ้น จากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ DAX +0.54% CAC +0.88% FTSE +0.17%

- น้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -USD0.42 ปิดที่ USD37.96/บาร์เรล Brent -USD0.25 ปิด USD40.71/บาร์เรล เพราะ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อน สูงกว่าคาด เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล (Vs คาด ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล) ราคาทองคำอ่อนตัวเล็กน้อย -USD0.90 ปิด USD1,735.60/ออนซ์ จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update ณ วันที่ 17 มิ.ย.: ม.Johh Hopkins รายงานสรุปผู้ติดเชื้อใหม่ ทั่วโลกล่าสุดกว่า 8.2 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 4.5 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุดมากกว่า 2.14 ล้านราย เสียชีวิตมากกว่า 1.17 แสนราย รองลงมา คือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย UK

- WHO: รายงาน ณ วันที่ 17 มิ.ย. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นใน China 44 ราย Japan 41 ราย เกาหลีใต้ 34 ราย USA 1.85 หมื่นราย บราซิล 2.06 หมื่นราย อินเดีย 1.09 หมื่นราย

+ ไทย: ศบค.รายงานวันพุธที่ผ่านมา ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ (ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นวันที่ 23 แล้ว) และไม่มีผู้เสียชีวิต

+ โอเปคพลัส: จับตา การประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังผลิต (Joint Ministerial Monitoring Committee: JMMC) โดยจะมีการประชุมทุกเดือน เพื่อติดตาม Supply และสถานการณ์ล่าสุดของตลาดน้ำมันโลก

+ BOE Meeting: คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% แต่เพิ่มวงเงิน QE 1 แสนล้านปอนด์เป็น 7.45 แสนล้านปอนด์

+ EU Summit: การประชุมเรื่องกองทุน Recovery Fund วงเงิน 7.5 แสนล้านปอนด์ เริ่มต้นวันนี้ จากการประชุม 2 วัน

+ USA: ประธานเฟด แถลงนโยบายการเงินรายไตรมาสต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาล่าง เผยเฟดจะเข้าซื้อหุ้นกู้ของเอกชนโดยตรง แทนการเข้าซื้อผ่านกองทุน ETFs เพราะเป็นเครื่องมือที่ดีกว่าในการเพิ่มสภาพคล่อง

+ USA: Housing Starts เดือน พ.ค. ดีขึ้น เป็น +4.3% MoM แต่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับคาด +17.8% MoM (Vs เดือน เม.ย.-30.2%) ส่วน Building Permits เดือน พ.ค. ดีขึ้นและสูงกว่าคาดเป็น +14.4% MoM (Vs คาด +12.4% MoM และเดือนเดือน เม.ย. -21.4%)

- Japan: Reuter Tankan Index เดือน มิ.ย. แย่ลงเป็น -16 และต่ำกว่าคาดที่ -28 (Vs เดือน พ.ค. -44)

+/- Opportunity Day วันนี้: AUCT ECF KUN EPG ADB

แนะนำ Selective Buy/Sell (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPALL PTTGC ADVANC

หุ้นแนะนำซื้อเก็งกำไร: KBANK CPALL CPN MTC BJC GPSC JMT PSL

Derivatives: แนะเปิด Short S50M20 เก็งกำไรหลัง 10:30น. (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)