เข้าช่วงพักสร้างฐาน รอปัจจัยกระตุ้นเพิ่มเติม

เข้าช่วงพักสร้างฐาน รอปัจจัยกระตุ้นเพิ่มเติม

การเทรดไซด์เวย์ของดัชนีฯ ในช่วงสั้นผนวกกับสภาพคล่องในตลาดหุ้นที่ยังอยู่ในระดับสูง น่าจะเอื้อต่อการเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์/ปรับลงในกรอบแคบๆ... คาดว่าตลาดหุ้นจะเริ่มพักสร้างฐาน หลังรีบาวด์รับรู้ปัจจัยบวกเกี่ยวกับมาตรการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนจาก ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) และข่าวการพบยาสเตียรอยด์ที่รักษาผู้ป่วย Covid-19 ได้ดี ไปค่อนข้างมากแล้ว... ขณะที่ปัจจัยตลาดหุ้นโลก
พลิกกลับมาเป็นลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ กล่าวคือ i) ล่าสุด 4 รัฐใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ ได้แก่ เท็กซัส ฟลอริดาแอริโซนา และโอคลาโฮมา รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายวันขึ้นสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์เพิ่มความกังวลต่อการระบาดรอบ 2 อีกครั้งหนึ่ง... ขณะที่ในฝั่งจีนนั้น กรุงปักกิ่งยกระดับภาวะฉุกเฉินขึ้น
อีกขั้น และเริ่มควบคุมการบินเข้า/บินออกจากกรุงปักกิ่งอีกครั้ง หลังจากการติดเชื้อในกรุงปักกิ่งเกิดขึ้นต่อเนื่อง ii) ประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามกฎหมายคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและชนเผ่าอุยกูร์... ทั้งนี้ ด้วย
ปัจจัยต่างๆ ข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยจะทรงตัวเพื่อรอปัจจัยเพิ่มเติม และฝ่ายวิจัยฯ มองว่าการเทรดไซด์เวย์ของดัชนีฯ ในช่วงสั้นผนวกกับสภาพคล่องในตลาดหุ้นที่ยังอยู่ในระดับสูง น่าจะเอื้อต่อการเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก (mid-to-small caps) ที่มีธีมการลงทุนเฉพาะตัวเข้าหนุน
ราคาหุ้น (ดูหุ้นแนะนำวันนี้ในส่วนถัดไป)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร AMATA*, STEC*, PLANB*

- AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.8 บาท / แนวต้าน 17.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 17.6 บาท (Stop loss 15.0 บาท) 2) ประเมินธีมการลงทุนกลุ่มนิคมฯ i) ย้ายฐานการผลิตจากจีน (คาดภาครัฐฯจะมีมาตรการจูงใจการลงทุน) ii) เตรียมเปิดน่านฟ้าให้นักธุรกิจเดินทางเข้าประเทศ iii) ความชัดเจนของโครงการสนามบินอู่ตะเภา 3) อัตราส่วนราคา AMATA*/WHA* เริ่มวกกลับสู่ค่าเฉลี่ย แนะนำ "ซื้อคืน" AMATA* ที่เคยแนะนำ Short sell จากกลยุทธ์ Pair trade ไปก่อนหน้า และแนะนำ "Let profit run / เก็งกำไร" WHA* ด้วยธีมเดียวกัน (WHA* แนวรับ 3.6 และ 3.5 บาท / แนวต้าน 4.0 บาท)

- STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.7 บาท และ 15.5 บาท / แนวต้าน 16.6 -17.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 17.8 บาท (Stop loss 15.0 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการที่ภาครัฐฯเตรียมเซ็นสัญญางานสนามบินอู่ตะเภา
ภายในเดือนนี้ (ฝ่ายวิจัยฯประเมินมูลค่างานก่อสร้างเฟสแรก 2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบัน Backlog 7.3 หมื่นล้านบาท) 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 จะดีขึ้น HoH จากการเริ่มงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF* ที่มีอัตรากำไรดี

- PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.7 บาท / แนวต้าน 6.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 6.7 บาท (Stop loss 5.4 บาท) 2) แม้ฝ่ายวิจัยฯ จะประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 จะเป็นจุดตํ่าสุด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์ แต่เราประเมินว่าตลาดฯได้รับรู้ประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวใน 2H63 ต่อเนื่องในปี 2564 หลังผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ 3) คาดกำไรปี 2564 จะกลับมาโต +100% YoY และ PE จะลดลงเหลือเพียง 25 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ในอดีต +45 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+BEM*) กรมรางฯ เล็งชง ศบค.ผ่อนปรน นั่งรถไฟฟ้าติดกันได้ รับปริมาณคนช่วงเปิดเทอม(ไทยรัฐออนไลน์) ความเห็น : เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว โดยสมควรกำหนด เพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกิน 70% จากเดิมที่หากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียง 25% และ 50% ในชั่วโมงเร่งด่วน หากมีการผ่อนคลายจริงจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้เพิ่มขึ้น จากเดิมประมาณ 230,000 คน/วัน มาอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 300,000 คน/วัน แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับคุ้มทุนที่ 400,000 คน/วัน ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคา เป้าหมาย 1H21 ที่ 11.10 บาท

(0) AOT* ออกประกาศให้ยื่นประมูลการประกอบกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) สำหรับสนามบินภูเก็ต โดยจะให้บริการตั้งแต่ 16 กันยายน 2564-31 มีนาคม 2575 โดยการยื่นข้อเสนอร่วมประมูลจะเกิดขึ้นวันที่ 14 สิงหาคม 25693 และ ประกาศผลการประมูลในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 (AOT) เราเห็นว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดเล็ก อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้กับ AOT เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรายได้ที่มาจากสนามบินในภูมิภาคของ AOT อยู่ที่ระดับเพียง 1.07 พันล้านบาท โดยสนามบินภูเก็ตมีสัดส่วนประมาณ 74% ขณะที่รายได้ใน
ส่วนการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากรคิดเป็นเพียง 3% ดังนั้น รายได้ที่เกิดจากบริการดังกล่าวเป็นเพียงประมาณ 24 ล้านบาท เรายังคงแนะนำถือ AOT โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 58 บาท

(0) รายรับจากการขายของ M ฟื้นตัวเพียง 60% ของระดับ pre-COVID-19 (Efinance Thai): บริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์กรุ๊ป (M.BK / M TB) คาดว่ารายได้ปี 2563 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 8% บริษัทกำลังเตรียมที่จะทบทวนเป้าหมายรายได้หลังจากมีมาตรการปลดล็อคแล้ว ทั้งนี้ M เปิดเผยว่ายอดขาย
ของ บริษัท ได้ฟื้นตัวเพียง 60% ของระดับปกติ เนื่องจากการจำกัดจำนวนลูกค้าต่อโต๊ะ เพื่อชดเชยรายได้โดยรวมที่ลดลง M ไม่เพียงแต่ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งรวมถึงเงินเดือนของพนักงานและการไม่จ่ายค่าล่วงเวลา แต่ยังได้เจรจากับศูนย์การค้าเพื่อขอลดค่าเช่า อย่างไรก็ดี M ยืนยันว่าเงินสดในมือนั้นเพียงพอและ บริษัท
ไม่จำเป็นต้องขอสินเชื่อธนาคารเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องของบริษัท Our comments: เรามองข่าวนี้ว่าเป็นกลาง โดยในประมาณการของเรา เราได้พิจารณาแล้วว่าผลประกอบการของ บริษัท จะแตะระดับตํ่าสุดในไตรมาส 2Q63 และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆในครึ่งปีหลัง เราคาดการณ์อย่างอนุรักษ์นิยมว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะติดลบ 31.8% ในปี 2563 โดยได้รวมการปิดร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบชั่วคราวในครึ่งแรกของปี 2563 อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าเงินสดในมือจะช่วยให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ประสบปัญหาสภาพคล่อง เรายังคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายกลางปี 64 ที่ 51.5 บาท

(- กลุ่ม Non-Bank) ธปท.สั่งหั่นดอกเบี้ยเพิ่ม 'บัตร-พีโลน' ลดสูงสุด 4% (กรุงเทพธุรกิจ) "แบงก์ชาติ" เรียกแบงก์-นอนแบงก์ ถกลดดอกเบี้ยเพิ่มหวังช่วยลดภาระประชาชนจากวิกฤติ โควิด โดยสั่งลดดอกเบีย้ 2-4% ทั้ง "บัตรเครดิต-พีโลน-เช่าซื้อรถ" มีผล 1 ก.ค.ถึงสิ้นปีนี้คาดเตรียมประกาศใช้เร็วๆ นี้

(+ กลุ่มโรงแรม CENTEL*, ERW*, MINT* / ธุรกิจการบิน AAV, AOT*, BAFS / กลุ่มนิคมฯ AMATA*, WHA*) ชงศบค. จับคู่ปท. 26 มิ.ย.นี้ นำร่องนักธุรกิจ-คนทำงาน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "อนุทิน" ชง ศบค.เคาะ Travel Bubble 26 มิ.ย.นี้ คาดเป็นแบบ MOU นำร่องกลุ่มนักธุรกิจ-มีตั๋ว
ทำงาน เข้ามาก่อนการท่องเที่ยว เตือน ปชช.ใช้ชีวิตวิถีใหม่ อย่าทำไข่แตก หลังติดเชื้อในประเทศเป็น 0 มา 23 วัน

(- MCOT) 'บิ๊กตู่'สั่งสอบ'อสมท' ปมแบ่งเค้กเพลย์เวิร์ค (ข่าวหุ้น) “ประยุทธ์” สั่งตรวจสอบ MCOT ปมแบ่งเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz กับ “เพลย์เวิร์ค” พร้อมดูกฎหมายเล็งให้ “เขมทัตต์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ช่วงตรวจสอบ ฟาก “เขมทัตต์” กร้าว! เชื่อตั้งคกก.ตรวจสอบไม่มีผลต่อมติกทสช. พร้อมแจง “มี
อำนาจ” ในหนังสือที่ส่งให้ กสทช. ชี้ทำตามมติกรรมการมาโดยตลอด กำหนดส่วนแบ่งเงินเยียวยา 50:50 ยันรักษาผลประโยชน์องค์กร ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์

(+) บีโอไอหนุน TOP-BGRIM ลงทุนโรงงานผลิตไฟฟ้า (ข่าวหุ้น) นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เผยว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุน แก่โครงการขนาดใหญ่ 5 โครงการ รวมมูลค่าลงทุน 41,834 ล้านบาท

(+) ก.ล.ต.ไฟเขียว'กลุ่มนํ้าตาลครบุรี' ตั้งอินฟราฟันด์วงเงิน 2.8 พันล. ลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล (ข่าวหุ้น) บลจ.กรุงไทย (KTAM) ผลักดันกลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBS) จัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) วงเงินไม่เกิน 2,800 ล้านบาท ล่าสุด ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบไฟลิ่งของกองทุนฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชู ความแข็งแกร่งของกลุ่มฯ ป้อนวัตถุดิบเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล