"Healthcare" sector (17 มิ.ย.63)

"Healthcare" sector (17 มิ.ย.63)

การกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติจะเป็นตัวนำการเติบโตใน 2H63

Event

แนวโน้มกลุ่มโรงพยาบาลใน 2H63 และปี 2564

lmpact

โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยต่างชาติสูงจะถูกกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19 ใน 1H63

การที่ COVID-19 ยังคงระบาดต่อเนื่องจากปลาย 1Q63 ทำให้ก่อนหน้านี้เราได้ปรับลดสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้เหลือแค่ 13.1 ล้านคน (-67% YoY) ดังนั้น โรงพยาบาลที่มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในระดับสูง จึงถูกกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดรอบนี้ เราคิดว่าผลกระทบจะหนักสุดใน 2Q63 เนื่องจากมีการปิดสนามบินเพื่อคุมโรคระบาด เรายังคงมองว่า ความแรงของผลกระทบจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างรายได้ของแต่ละโรงพยาบาล โดยเราคาดว่า BH* จะถูกกระทบอย่างหนักใน 2Q63 เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติสูงที่สุดที่ 65% รองลงมาคือ BDMS* (29%) BCH* (11%) และ EKH (10%) เรามอว่า CHG* และ LPH ดูดีกว่าเพื่อน เพราะมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติแค่ไม่ถึง 5% เท่านั้น

การที่ SSO ปรับขึ้นอัตราค่ารักษาจะช่วยบรรเทาผลกระทบของโรงพยาบาลขนาดเล็กในปีนี้

โรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กจะได้อานิสงส์จากการที่ SSO ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลในปี 2563 สำหรับ ค่ารักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานรายหัวอีก 140 บาท/ราย เป็น 1,640 บาท (+9.3% จาก 1,500 บาทในปี 2562) ii) “High Cost Care” (HCC) เป็น 746 บาท/ราย/ปี (+16.6%) และ iii) โรครื้อรัง 26 โรคเป็น 453 บาท/ราย/ปี (+1.3%) ผลด้านบวกจากประเด็นนี้สะท้อนอยู่ในผลประกอบการ 1Q63 ของ BCH* CHG*และ LPH* ไปแล้ว โดยมีการเติบโตของกำไรสุทธิเท่ากับ 4.4% YoY, 4.0% YoY และ 20.8% YoY ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับสัดส่วนรายได้จากประกันสังคมของโรงพยาบาลทั้งสามแห่งอยู่ที่ 36% 32% และ 38% ตามลำดับ

ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 2H63 เป็นต้นไป

เราคาดว่าโรงพยาบาลที่มีฐานผู้ป่วยประกันสังคม (SS) จะปลอดภัยมากกว่าในปี 2563 จากการปรับขึ้นค่ารักษาเฉลี่ยอีก 9.7% YoY ทั้งนี้ เมื่อมองต่อไปใน 2H63 เราคิดว่าโรงพยาบาลที่มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติดูน่าตื่นเต้นมากขึ้นจากโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติจะกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยคาดว่า มี
โอกาสที่จะพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ปลาย 3Q63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ เราเชื่อว่าจะมีพัฒนาการด้านบวกจากการที่หลาย ๆ ประเทศผ่อนคลายมาตรการ lockdown ต่อเนื่องในปี 2564 เพราะมีแนวโน้มว่าผลกระทบจากโรคระบาดจะลดลง เนื่องจาก i) มาตรการควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพ และ ii) ความสำเร็จ
ในการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ซึ่งจะถือเป็นข่าวดีที่ทำให้ผู้คนหายกลัวโรคระบาด และทำให้ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะต่อไป

Valuation & Action

เราคิดว่าราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลสะท้อนกระแสข่าวลบ และความคาดหมายของนักลงทุนว่าผลประกอบการจะลดลง YoY ในปี 2563 ไปแล้ว ซึ่งเมื่อมองต่อไปที่ 2H63 และปี 2564 เราคาดว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้น่าจะฟื้นตัวได้ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานที่น่าจะดีขึ้น HoH ใน 2H63 และฟื้นตัวต่อเนื่อง YoY ได้ในปี 2564 เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Neutral โดยเลือก EKH และ BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มจากประเด็นการฟื้นตัวของธุรกิจจากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ เราประเมินราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ของ EKH ไว้ที่ 6.50 บาท และของ BDMS ที่ 27.00 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองของไทย เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้