ตลาดยังมีโอกาสผันผวน แม้สภาพคล่องในระดับสูงทำให้การปรับฐานอาจไม่ลึก

ตลาดยังมีโอกาสผันผวน แม้สภาพคล่องในระดับสูงทำให้การปรับฐานอาจไม่ลึก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนตลอดช่วงการซื้อขาย

โดยปรับขึ้นแรงในช่วงแรกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นบวก อาทิ ยอดค้าปลีก พ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 17.7% (สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 8%) จากผลของการจับจ่ายหลังเริ่มเปิดเมือง ก่อนที่จะอ่อนตัวลงหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงต่อกมธ.การธนาคารระบุการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน และยังห่างไกลจากระดับก่อนหน้าวิกฤติมาก ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อม และผู้มีรายได้ต่ำ มีความเสี่ยงที่สุด ก่อนที่ตลาดจะฟื้นจากอานิสงค์ของข่าวการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคาน้ำมันฟื้นตัว แต่ยังคงมองแค่เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับการประเมินในเดือนพ.ค. ขณะที่โอเปคพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 89% ของข้อตกลงลดการผลิต อย่างไรก็ตามราคาที่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปีก่อนมาก ทำให้ผลการดำเนินงานรวมปีนี้ลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ากำไรไตรมาส 2/63 อาจเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/63 ทำให้เรายังคงมองแค่เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน

กลุ่มท่องเที่ยว มองข้ามปีนี้ถือว่าดี แต่ตอบรับปัจจัยบวกช่วงสั้นไปมากแล้ว ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ของหุ้นในกลุ่มทั้งหมด “ดูไม่จืด” ซึ่งการขาดทุนที่มากกว่าคาด อาจกระทบต่อการดำรงสถานะทางการเงิน (covenant) ของหุ้นกู้/เงินกู้ ทำให้หุ้นบางตัวอาจยังไม่เปิดความเสี่ยงที่จะเกิดการเพิ่มทุนในอนาคตอันใกล้ ขณะที่ความเสี่ยงของการระบาดระลอกสอง แม้อาจไม่แรงเท่ารอบแรก แต่ก็จะทำให้มาตรการเปิดประเทศ ล่าช้าออกไป ถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ ดังนั้นคงคำแนะนำต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนว่าไม่ไล่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และควรแค่ทยอยสะสม หรือรอพิจารณาฐานะทางการเงินหลังประกาศงบไตรมาส 2/63 ก่อนเข้าลงทุน

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มธนาคาร เราชอบ BBL, KBANK, TMB

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวตามตลาดต่างประเทศ โดยอาจผันผวนไปตามข้อมูลการระบาดระลอกสองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้การเก็งกำไรควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF, STA, WHAUP*, THRE*

แนวรับ 1,350 จุด / แนวต้าน : 1,377จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯโตแข็งแกร่งเกินคาด – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นถึง 17.7% ในเดือนพ.ค.ทำสถิติแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากดิ่งลง 14.7% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังกลับมาเปิดเมือง

ประธานาธิบดีทรัมป์กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ – คณะทำงานของทรัมป์เตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานเช่น สร้างถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐาน 5G ในชนบท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19

ครม.อนุมัติโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยววงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท – ประกอบด้วย 3 แพ็คเกจ “เที่ยวปันสุข เราไปเที่ยวกัน และกำลังใจ” โดยรัฐจะสนับสนุนค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายด้านทางเดินทาง และกิจกรรมการท่องเที่ยวอื่นๆ ให้บุคคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่ว ไปเป็นระยะเวลา 4 เดือน (ก.ค.-ต.ค. 2563)

หุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50/100SET50: เข้า (+) BPP, TTW / ออก (-)  BANPU, DELTA // SET100: เข้า (+) AAV, ACE, DOHOME, RBF, SIRI, TVO, WHAUP / ออก (-)  BGC, DELTA, MBK, PSL, STPI, THAI, THG

ประเด็นติดตาม: 17 มิ.ย. – OPEC Monthly Report/ 23 มิ.ย. – US PMI เดือนมิ.ย. / 24 มิ.ย. – TH Industrial Production/ประชุม กนง / 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)