ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 3% คาดอุปสงค์ฟื้นปีหน้า

ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 3% คาดอุปสงค์ฟื้นปีหน้า

ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร (16 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ว่า อุปสงค์พลังงานโลกจะฟื้นตัวในปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ (3.36%) ปิดที่ 38.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ (3%) ปิดที่ 40.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะอยู่ที่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับการประเมินในเดือน พ.ค. ขณะที่ได้แรงหนุนจากการบริโภคน้ำมันที่มากเกินคาดในช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์


อย่างไรก็ดี IEA เตือนว่า การทรุดตัวของอุตสาหกรรมการบินผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 บ่งชี้ว่า อุปสงค์น้ำมันจะยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาด จนกว่าจะถึงปี 2565

IEA ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิ่งลงเกือบ 12 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค. จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโอเปคพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 89% ของข้อตกลงลดการผลิต

ด้านบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ 279 แท่น ซึ่งเป็นการทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเมื่อปี 2483 หรือเมื่อ 80 ปีก่อน

นอกจากนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ เผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 7 แท่น เหลือ 199 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2552 บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทพลังงานจะยังคงลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต่อไป เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ และจะยังคงรักษาปริมาณให้อยู่ในระดับต่ำในปี 2564 และ 2565