‘สหรัฐ’ ยุติทดลอง 'ยามาลาเรีย' พบไม่รักษาโควิดตาม ‘ทรัมป์’ อ้าง

‘สหรัฐ’ ยุติทดลอง 'ยามาลาเรีย' พบไม่รักษาโควิดตาม ‘ทรัมป์’ อ้าง

"สหรัฐ" หยุดทดลอง "คลอโรควิน - ไฮดรอกซีคลอโรควิน" เป็นยาต้านมาลาเรีย หลังพบว่าไม่เป็นตาม “ทรัมป์” อวดอ้างรักษาโควิดได้

สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ)ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ระบุว่า เอฟดีเอได้ยุติการอนุมัติให้มีการใช้ยาคลอโรควิน (chloroquine)และไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine)ในกรณีฉุกเฉินเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19แล้ว เนื่องจากมีอาการข้างเคียงที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเสี่ยงชีวิต ขณะที่ประสิทธิภาพในการรักษานั้นไม่คุ้มค่ากัน 

นอกจากนี้ พบว่า หากมีการใช้ยาดังกล่าวในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ร่วมกับยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ต้านไวรัสของยาเรมเดซิเวียร์ถดถอยลง

เอฟดีเอ ระบุว่า ยาคลอโรควินและไฮดรอกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ และผลข้างเคียงอื่น ๆ จึงทำให้ประโยชน์จากการใช้ยาทั้งสองชนิดดังกล่าว ไม่สามารถชดเชยความเสี่ยงหากมีการอนุญาตใช้ยาได้

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อวดอ้างสรรพคุณว่า สามารถป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้

อย่างไรก็ตาม เอฟดีเอได้ออกคำสั่งในเดือน มี.ค. 2563 อนุมัติให้มีการใช้ยาคลอโรควินและไฮดรอกซีคลอโรควินได้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งการออกคำสั่งดังกล่าวช่วยให้แพทย์สามารถสั่งจ่ายยาทั้งสองในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล แม้ว่ายาดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากเอฟดีเอ สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 ก็ตาม