นายกฯ เผยในหลวงทรงเมตตา ไม่ใช้ 'มาตรา112' เอาผิดหมิ่นสถาบัน

นายกฯ เผยในหลวงทรงเมตตา ไม่ใช้ 'มาตรา112' เอาผิดหมิ่นสถาบัน

แจงปมใช้ ม.112 เผยในหลวงทรงมีพระเมตตาไม่ให้ใช้เอาผิดกลุ่มหมิ่นสถาบัน ห่วงนิสิตนักศึกษาถูกชักจูงละเมิด “ประวิตร” ตรวจชื่อ จ่อเช็คบิล ขณะที่ “ฮิวแมนไรท์วอทช์” อ้างยูเอ็นรับเรื่อง ‘วันเฉลิม’ ขีดเส้นกัมพูชาต้องมีคำตอบก่อน 24 มิ.ย.

ภายหลังที่ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ อายุ 37 ปี ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากหน้าคอนโดมิเนียม ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรออกมากดดันรัฐบาลให้ติดตามการหายตัวของเขา โดยมีการนำเสนอข้อมูลว่า นายวันเฉลิม เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีความผิดอาญามาตรา 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ หลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557

 ล่าสุดวานนี้ (15 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตนมีความกังวล หลังมีกลุ่มบุคคล กำลังทำการล่วงละเมิดสถาบัน จึงขอร้องทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทย อย่าไปเชื่อฟังกลุ่มที่บิดเบือน เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่สร้างความเกลียดชัง และเชื่อมโยงข้อมูลที่ไม่เป็นจริง พร้อมอยากให้ทุกคนตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่กลุ่มดังกล่าวดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีความเป็นไปไม่ได้ และกลุ่มบุคคลนี้มีความต้องการสิ่งใด

“จึงขออย่าตกเป็นเครื่องมือ ในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ซึ่งเชื่อว่าทุกคนรู้ดี ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ดำเนินการต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และใกล้วันสำคัญในประเทศใช่หรือไม่ ยืนยันรัฐบาลกำลังดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ แต่ตามกฎหมายที่มีอยู่”

พระเมตตาไม่ให้ใช้ ม.112

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า โดยในประเทศไทยที่ยังเคลื่อนไหวกัน ก็ยังไม่มีใครทำอะไรสักคน ซึ่งกฎหมายมีอยู่หลายตัว เราก็เข้าใจ ว่าต้องทำให้ทุกคนมีความสบายใจ โดยเฉพาะเด็ก นิสิตนักศึกษาผมไม่อยากให้เสียอนาคต ไม่ได้ขู่เขานะ ซึ่งกฎหมายก็มีทุกตัวอยู่แล้ว ทุกคนต้องสำนึกเรื่องการบิดเบือนสถาบัน

“เดิมเรามีกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ อยากบอกคนไทยว่า วันนี้มาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระเมตตา ไม่ให้ใช้  นี่คือสิ่งที่ท่านทรงทำให้แล้ว และคุณก็ละเมิดกันเรื่อยเปื่อย อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร คุณต้องการอะไรกัน วันนี้จำเป็นต้องปรับ ต้องพูดเพื่อให้บ้านเมืองสงบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ยอมรับหนีไปตปท.ทำอะไรไม่ได้

ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน และแถบยุโรปนั้น นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลทำได้เพียงขอความร่วมมือ และส่งหนังสือไปยังประเทศเหล่านี้ ซึ่งก็อยู่ที่ประเทศต้นทางว่าจะส่งตัวกลับมาหรือไม่ ซึ่งก็ต้องยอมรับกฎหมายในต่างประเทศ ไม่สามารถที่จะส่งคนไปติดตามตัวกลับมาได้ ซึ่งคนที่ไปอยู่ต่างประเทศ ก็หนีการทำผิดจากประเทศไทย ซึ่งบางคนมีคดีเล็กน้อย แต่ก็หนีไป เช่น บางคนถูกเรียกตัว แต่ก็ไม่มา กลับหนี และกล่าวหาผู้อื่นอย่างเสียหาย ที่สำคัญไม่ทราบแม้กระทั่งไปทำธุรกิจด้านใด

นายกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับการหายตัวไปของนายวันเฉลิมนั้น ประเทศกัมพูชาพร้อมจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ หากมีคนไปแจ้งความหรือร้องทุกข์ ซึ่งทางกัมพูชาได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศมาแล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลได้ขอความร่วมมือไปยังทุกประเทศ ที่กลุ่มเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ เพราะทุกคนเป็นผู้ลี้ภัย

แนะไม่ควรสร้างปัญหาปท.อื่น

ส่วนตัวเห็นว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าจะมีจิตสำนึก เมื่อต่างประเทศให้ที่พำนักแล้ว ก็ไม่ควรเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต หากวันใดที่ประเทศนั้น ไม่ให้อาศัยอยู่ แล้วจะไปอยู่ในประเทศใด ซึ่งส่วนตัวเห็นใจ เพราะตนเองไม่ใช่คนใจร้าย มีความสงสาร ที่เป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่มีรังแกใคร

นายกฯ ยังขอความร่วมมือประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ต้องช่วยกันรักษาชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น การเปลี่ยนแปลงประเทศที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดความรุนแรง หลายประเทศที่เปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตย ได้เกิดความรุนแรงมาก่อน ก่อนจึงไม่อยากให้ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์เหมือนต่างประเทศ

“ประวิตร”ไล่ชื่อจ่อเช็คบิล

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงขบวนการล้มเจ้าว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าอันไหนที่ได้แล้ว ก็จะแจ้งความดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯออกมาระบุว่าไม่ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เรื่องนี้เราไม่ใช้อยู่แล้ว” เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงมีการข่าวอะไรมาเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็กำลังดูรายชื่อที่มีอยู่”

อ้างยูเอ็นจี้กัมพูชาสอบสวน

ด้าน นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของฮิวแมนไรท์วอทช์ ในฐานะนักสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.63 เวลา 22.10 น. ระบุว่า ด่วน! คณะกรรมการตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บังคับบุคคลสูญหายของยูเอ็นรับเรื่องกรณีอุ้มหาย “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” และได้ส่งหนังสือในนามเลขาธิการยูเอ็น จี้ให้รัฐบาลกัมพูชาสอบสวน และรายงานผลภายใน 24 มิ.ย. #saveวันเฉลิม

โดยนายสุนัย ระบุ ด้วยว่า กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาคุ้มครองมิให้บังคับบุคคลสูญหาย ยูเอ็นมีช่องทางยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกรณี #saveวันเฉลิม ได้เต็มที่ ส่วนไทยยังไม่ให้สัตยาบันเรื่องนี้ และยังไม่กำหนดให้การอุ้มหายเป็นความผิดอาญา