'ปรเมศวร์' มั่นใจคดีโฉนดถุงกล้วยแขก 'พระพยอม' ได้เงิน 10 ล้านคืนแน่

'ปรเมศวร์' มั่นใจคดีโฉนดถุงกล้วยแขก 'พระพยอม' ได้เงิน 10 ล้านคืนแน่

"ปรเมศวร์" มั่นใจคดีโฉนดถุงกล้วยแขก "พระพยอม" ได้เงิน 10 ล้านคืนแน่นอน รอสู้คดีเพราะข้อกฎหมายเขียนไว้ชัดหากจะคืนที่ดิน ต้องชดใช้เงินก่อน

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.63  นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี บอกถึงกรณีที่เข้ามาช่วยเหลือทางคดีให้กับ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ในที่ดินข้อพิพาท หรือที่เรียกกันว่า ‘โฉนดถุงกล้วยแขก’ ว่า จากกรณีการขับไล่ที่ดินและพระพยอม โดยมีลักษณะนักเลง มาข่มขู่ ทำให้พระจึงเกิดความไม่สบายใจ ตนจึงเข้ามาช่วย โดยข้อเท็จจริงเรื่องที่ดินจบไปแล้ว และมูลนิธิวัดสวนแก้วคงไม่ได้ที่ดินเพราะศาลมีคำตัดสินให้คืนที่ดิน
แต่ตามหลักกฎหมายเมื่อต้องการเอาที่คืนนั้น ต้องใช้ราคาคืนก่อน เพราะกฎหมายเขียนไว้หากถ้าซื้อโดยสุจริตและเปิดเผย และสุดท้ายปรากฎว่าที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น คนขายจะต้องชดใช้ค่าที่ดินให้กับพระพยอมก่อน

ทั้งนี้ ตามขั้นตอนการสู้คดีเพื่อให้ได้เงินคืน คือ จะต้องรอให้คู่ความ ฟ้องขับไล่ที่ดินมาก่อน จากนั้นก็จะสู้คดี โดยการยื่นคำให้การสู้คดี โดยยินดีคืนที่ดินให้กับเจ้าของที่ แต่ต้องจ่ายเงิน 10 ล้านคืนก่อน และเมื่อได้เงินคืน10ล้านก็จะมอบที่ดินคืนให้ แต่ถ้ายังไม่จ่ายเงินให้ก็ยังอยู่ในที่ดินได้ก่อน ซึ่งหากเขาจะฟ้องดำเนินคดี ก็ให้ฟ้องมาได้

นายปรเมศวร์ บอกด้วยว่า ที่ผ่านมามองมุมผิดกันมาตลอด และมองแค่มุมเดียวว่าจะต้องไปเอาคืนจากนางวันทนา สุขสำเริง เพียงลำพัง แต่เมื่อดูข้อกฎหมายมีช่องทางการต่อสู้คดีอยู่ และที่ผ่านมายังไม่มีการฟ้องร้องขับไล่ที่ดิน แต่ไปขอเพิกถอนโฉนดที่ออกโดยการครอบครงปรปักษ์ ซึ่งศาลก็อนุญาตให้เพิกถอนเพราะนางวันทนากลับคำให้การเป็นผู้เช่าอาศัย

ทั้งนี้ มั่นใจว่า พระพยอมจะได้เงินคืน 10 ล้านแน่นอน และกรณีนี้ถือเป็นบทเรียนของการซื้อที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์ และกฎหมายนี้ ไม่ได้มีช่องโหว่ และไม่มีปัญญาใดๆ แต่ต้องมองกฎหมายให้ครบทุกมิติ และใช้กฎหมายให้เป็น เพราะกฎหมายมีความเป็นธรรมเสมอ