ลดลงต่อ กังวลประเด็นข่าว Covid-19 ในประเทศจีน

ลดลงต่อ กังวลประเด็นข่าว Covid-19 ในประเทศจีน

การคลายล็อกเฟส 4 ในวันนี้น่าจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติมากขึ้น

KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับลงต่อ... หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีฯ เปิดร่วงแรงตามหุ้นโลก ตามความกังวล Covid-19 ระบาดรอบ 2 แต่มีช่วงฟื้นตัวจากระดับสำคัญเชิงจิตวิทยาที่ 1,350 จุด... ส่วนปัจจัยแวดล้อมในเช้าวันนี้นั้น แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว 1.31% เมื่อคืนวันศุกร์ แต่ปัจจัยเกี่ยวกับ Covid-19 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับเป็นลบมากขึ้น... ไม่ใช่ในสหรัฐฯ แต่เป็นประเทศจีน หลังจากทางการจีนพบกลุ่มผู้ติดเชื้อ (infectious cluster) ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ และน่าจะมีต้นตอมาจากตลาดสด คล้ายกับจุดเริ่มต้นของ Covid-19 ในเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้จีนประกาศภาวะฉุกเฉินในปักกิ่ง ประเด็นข่าวดังกล่าวส่งผลให้เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลงประมาณ 300 จุด และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าลดลงประมาณ 4% (ณ เวลา 8.00 น.)... อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองว่า SET Index มีความเสี่ยงทางลงไม่มาก โดยแม้ว่าเราสมมติให้ประมาณการกำไร บจ. ปี 2564 มีความเสี่ยงทางลง 5% จากระดับปัจจุบัน และอิงระดับค่าพีอีที่ประมาณ 16.5 เท่า เราคำนวณระดับการปรับฐานของดัชนีฯ จากปัจจัยเสี่ยง Covid-19 ในรอบนี้ ไม่น่าจะลงต่ำกว่า 1,320 จุด... ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงเป็นบวก การคลายล็อกเฟส 4 ในวันนี้น่าจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติมากขึ้น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร WHA* / หุ้นเล็ก AMA, EP

- WHA* (เป้าพื้นฐาน 3.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.3 บาท และ 3.2 บาท / แนวต้าน 3.4 - 3.66 บาท (Trailing stop 3.2 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ธีมการลงทุน i) ความคืบหน้าโครงการอีอีซี (เซ็นสัญญาสนามบินอู่ตะเภาเดือนนี้ และอาจพิจารณาผ่อนปรนให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไทยเร็วๆนี้)
ii) การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย iii) การเติบโตของ E-commerce เพิ่มความต้องการเช่าคลังสินค้า (จุดเด่นของ WHA*) 3) มุมมองด้าน "Pair trading" ราคาหุ้น WHA* Laggard AMATA* ที่เราแนะนำมาก่อนหน้า ... สำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ
แนะนำ Long WHA* / Short AMATA* พร้อมกัน (เริ่มแนะนำวันที่ 9 มิ.ย. กำไรรวม +3.6%)

- AMA (เป้าพื้นฐาน 6.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.9 บาท / แนวต้าน 5.3 - 5.5 บาท (Stop loss 4.6 บาท) 2) วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 จะฟื้นตัวเด่น QoQ ผลจาก i) หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้รายได้จากการขนส่งทางเรือฟื้น
ตัว, ii) อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จาก อัตราการเดินเรือเพิ่มและต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง 3) Valuation ยังไม่แพง ด้วย PBV 1.25 เท่า (ใกล้เคียง -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) PE ปี 2563 = 22.5 และคาดจะลดลงเหลือ 11.5 เท่าในปี 2564 (ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง +30 เท่า)

- EP (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.48 บาท / แนวต้าน 3.70 - 3.84 บาท (Stop loss 3.4 บาท) 2) วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ ประเมินกำไร 2Q63 จะฟื้นตัว QoQ ผลจาก i) การกลับรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนใน 1Q63 เป็นกำไรใน 2Q63 (ผลจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น) ii)
ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม กลับสู่ระดับปกติในเดือน มิ.ย. หลังจากที่ดีมานด์ใช้ไฟฟ้าลดลงในเดือน พ.ค. (ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19) 3) ตลท. แจ้งการย้ายหมวดอุตสาหกรรมจากกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ไปยังกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีผล 1 ก.ค.นี้ คาด เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุน (PE บนกำไรปกติปัจจุบันต่ำเพียง 10.6 เท่า มีโอกาสถูก Re-rate ขึน้ ตามกลุ่มโรงไฟฟ้า)

หุ้นมีข่าว

(+) ADVANC แจ้ง ตลท. ว่าศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ให้บริษัทนำส่งรายได้จำนวน 7.2 พันล้านบาท ซึ่งเกิดจากการใช้คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ในช่วงเยียวยา (1 ตุลาคม 2558 - 30 มิถุนายน 2559)

ความเห็น: ประเด็นนี้เป็นปัจจัยบวกต่อ ADVANC แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลต่อสถานะทางการเงินของบริษัทในช่วงนี้ เนื่องจาก i) คำพิพากษาของศาลปกครองกลางยังไม่ถือเป็นสิ้นสุดสำหรับข้อพิพาทนี้ ii)กสทช. มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน ซึ่งหากมีการยื่นอุทธรณ์ ต่อศาล
ปกครองสูงสุดได้ต่อ และในกรณีเลวร้าย หากผลสุดท้ายออกมาว่า ADVANC เป็นฝ่ายแพ้ จะผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของ ADVANC อิงตามจำนวนที่ กสทช. เรียกร้องที่ 7.2 พันล้านบาท และจะกระทบต่อราคาหุ้นให้ลดลงราว 2.4 บาท อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าหาก กสทช. ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง จะยัง
ไม่มีข้อสรุปในระยะสั้น ทำให้เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC (ราคาเป้าหมาย 233 บาท)

(+) AAV* ท่องเที่ยวจีนจ่อ ไฟเขียวไม่เว้นที่นั่ง (ทันหุ้น) ศบค.เตรียมเคาะแนวทางเปิดประเทศเพื่อท่องเที่ยวอย่างจำกัดคาดชัดเจนสิ้นเดือนนี้ พร้อมไฟเขียวเครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารได้เต็มที่ 100% แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเดินทาง นักวิเคราะห์ชี้ นักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของนักท่องเที่ยวทั้ง หมดซึ่ง AAV* มีสัดส่วนถึงกว่า 40% จับตาควบคุมการระบาดได้ดี มีโอกาสฟื้นแกร่ง ชี้เป้าAAV*-CENTEL* และ BDMS*

(+) ยกเลิก 'เคอร์ฟิว' วันนี้ CPALL* ได้ขาย 24 ชม. (ทันหุ้น) ยกเลิกเคอร์ฟิววันนี้ ร้านสะดวกซื้อ ค้าปลีกกลับมาเปิด 24 ชม. ทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น และมินิบิ๊กซี ชู CPALL* เด่นสุด มีปัจจัยหนุนทั้งรายได้จากธุรกิจหลัก และบริการ อาทิ เคาน์เตอร์เซอร์วิส, Banking Agent และ SPEED-D เตรียมปิดดีลเทสโก้โลตัสสิ้นปี หนุนรายได้ขึ้นต้นทุนลด เคาะเป้า 81 บาท ส่วน BJC* คาดครึ่งปีหลังทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัวเป้า 50 บาท

(+) SKY เซ็นสัญญา AOT* ให้บริการผู้โดยสาร รับทรัพย์ 8.62 พันล. (ทันหุ้น) SKY ยิ้มแก้มปริ เซ็นสัญญาจ้างงานให้บริการระบบบริการผู้โดยสารขึ้น เครื่องของ AOT* มูลค่า 8.62 พันล้านบาท มีระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2573

(+) บาทแข็งเสริมกำไร GULF* เพิ่มสัดส่วนลงทุนโอมาน (ข่าวหุ้น) GULF* รับผลบวกเงินบาทแข็งค่า คาดมีกำไรทางบัญชีราว 550 ล้านบาท จากการแข็งค่า 1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด ปรับโครงสร้างเพิ่มสัดส่วนการลงทุน รองรับขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ในโอมาน ขณะที่
โครงการ DIPWP จ่อดำเนินการเชิงพาณิชย์ปี 64-65

(0) BCP* เลื่อนแผนผลิตแร่ลิเทียม เดินหน้าเฟสแรกปลายปีหน้า (ข่าวหุ้น) BCP* เผยโครงการร่วมทุนผลิตแร่ลิเทียมเฟสแรกในอาร์เจนตินา เลื่อนออกไปเป็นปลายปี 64 ล่าสุดมีผู้สนใจติดต่อขอซื้อ แล้วหวังป้อนตลาด EV