นครบาลเตรียมพร้อมรับมือฝนตก เร่งระบายรถช่วงเย็น

นครบาลเตรียมพร้อมรับมือฝนตก เร่งระบายรถช่วงเย็น

รอง ผบช.น. เผยช่วงเช้าจราจรหนาแน่นบางพื้นที่-คลี่คลายเคลื่อนตัวได้ ระบุเตรียมพร้อมรับมือฝนตก-เร่งระบายรถในช่วงเย็น ประสานสำนักงานระบายน้ำ เตรียมรถยก-เครื่องสูบน้ำ พร้อมกำชับทุกพื้นที่เตรียมแผนรองรับเปิดเทอม

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 15 มิถุนายน พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะดูแลงานด้านการจราจร เปิดเผยถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงปลดล็อกเฟส 4 ว่าได้เตรียมความพร้อมจัดกำลังตำรวจจราจรเต็มอัตรากว่า 3,000 นาย คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตั้งแต่ระยะที่ 3 แล้ว เนื่องจากได้มีการประเมินผลสภาพการจราจรตลอดมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่มีปริมาณรถน้อยร้อยละ 20-30 จนระยะสามมีปริมาณรถร้อยละ 70-80

โดยในวันนี้มีสภาพปริมาณรถเกือบเข้าสู่ภาวะปกติของช่วงปิดเทอม ซึ่งมีปริมาณรถค่อนข้างมาก และมีฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยฝนหยุดตกช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ทำให้ในหลายพื้นที่มีถนนเปียกลื่น ส่วนที่มีปัญหาการจราจรมากจะอยู่ในทิศเหนือ ถนนวิภาวดี ถนนพหลโยธิน มีปริมาณการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ประกอบกับมีผู้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลราชวิถีจำนวนมาก นอกจากนี้ถนนเปียกลื่น และมีสภาพฝนตกเล็กน้อย ทำให้มีสภาพการจราจรติดขัดต่อเนื่องลงมาที่ถนนพหลโยธินและต่อเนื่องไปที่ถนนวิภาวดี จึงมีสภาพการจราจรที่หนาแน่นและคลี่คลายแล้วในช่วงเวลา 08.30 น.

พลตำรวจตรีจิรสันต์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนจุดอื่นที่มีถนนเปียกลื่นทำให้มีอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิทขาเข้า และบนถนนเพชรเกษมขาเข้า ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นกรณีของรถขยะชนข้างทาง คลี่คลายได้ประมาณ 08.00 น. ซึ่งไม่กระทบกับสภาพการจราจรมากนัก เพราะไม่ใช่จุดใจกลางเมือง ส่วนบริเวณใจกลางเมืองที่มีปริมาณรถหนาแน่นสามารถอำนวยความสะดวกได้ ด้านการจราจรในภาพรวมเป็นไปได้ด้วยดี นอกจากนี้บริเวณถนนเพชรบุรีขาเข้า มีรถติดเล็กน้อยท้ายแถวถึงแยกคลองตัน มีรถหนาแน่นแต่ก็ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ไม่ถึงขนาดติดขัดต่อเนื่องไปเส้นทางอื่น ส่วนเส้นสุขุมวิท เป็นส่วนของจังหวัดสมุทรปราการเข้ามากรุงเทพมหานครยังรับรถได้ดี เนื่องจากในส่วนของจังหวัดสมุทรปราการมีน้ำท่วมขังบริเวณสำโรงเหนือ ทำให้เมื่อเข้ามาผ่านแยกบางนาแล้วรถยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ทั้งนี้สภาพการจราจรโดยรวมถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี

พลตำรวจตรีจิรสันต์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนรถประจำทางมาให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่กังวลคือเมื่อรถประจำทางมาใช้แล้วเกิดเสียอาจกระทบกับสภาพการจราจรแต่ละเส้นทางได้ เมื่อช่วงเช้ามีรถเสียเพียงจุดเดียวบริเวณถนนวิภาวดี ฝั่งขาเข้า หน้าประตู 5 สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงให้หลบรถไปอยู่ที่ช่องเว้า จึงไม่กระทบกับปัญหาการจราจร อย่างไรก็ตามได้มีการประเมินในช่วงเย็นของวันนี้ ซึ่งในวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้ จะได้รับผลกระทบจากลมพายุนูรี ทำให้กรุงเทพมหานครจะมีฝนตก จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้เข้าประจำจุดเร่งระบายรถตั้งแต่ช่วงเร่งด่วนบ่ายเวลา 15.00 น. ก็ให้เข้าประจำจุดตั้งแต่ 14.00 น. เพื่อเร่งระบายรถเผื่อจะมีฝนตกหนักจะทำให้ปริมาณรถไม่หนาแน่นมาก นอกจากนี้จะมีชุดช่วยเหลือน้ำท่วมแต่ละสน. ให้เตรียมความพร้อมไว้ หากพื้นที่ไหนมีน้ำท่วมขัง ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ก็ได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำโมบายไว้แล้ว และให้เตรียมรถยกไปสแตนบายตามแยกต่างๆ หากมีกรณีรถเสียจะได้ยกรถได้เร็ว เมื่อเคลียร์รถเสียพ้นการกีดขวางการจราจรได้เร็ว ผลกระทบกับปัญหาการจราจรก็จะน้อยลง

ส่วนจะมีจุดใดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ทางพลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวว่า ทั้งนี้ต้องดูสภาพการจราจรในช่วงบ่าย ซึ่งได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานครว่าจะมีปริมาณฝนตกในพื้นที่ใด ซึ่งจะมีเวลาเตรียมความพร้อมทั้งรถยก บุคลากร เครื่องสูบน้ำ ก็จะมีการไปเตรียมความพร้อมบริเวณนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ส่วนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลและมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว

พลตำรวจตรีจิรสันต์ ได้เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมด้านการจราจรในช่วงเปิดเทอมนี้ ว่า ได้สั่งกำชับให้ทุกพื้นที่เตรียมแผนรองรับช่วงเปิดเทอมให้แล้วเสร็จ ในวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายนนี้ จากนั้นในช่วงระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายนจะนำแผนดังกล่าวไปเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามในพื้นที่ใดที่สามารถเข้าไปพูดคุยกับสถานศึกษา ครู สมาคมผู้ปกครอง ได้ ก็ให้เตรียมการบริหารจัดการจราจรบริเวณสถานศึกษาว่าจะจัดการจราจรอย่างไร รวมถึงเตรียมความพร้อมของผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลาน เพื่อเร่งระบายรถบริเวณด้านหน้าสถานศึกษา

ภาพ-saranitet.police.go.th