กังวลโควิดรอบสอง

กังวลโควิดรอบสอง

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงกว่า 53.14 จุด หรือ 3.7% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2

ประกอบกับราคาน้ำมัน WTI ทั้งสัปดาห์ปรับตัวลงราว 8.3% นอกจากนี้ นักลงทุนสถาบันและต่างชาติเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง โดยวันศุกร์ SET Index ปิดที่ 1,382.56 จุด (-14.21 จุด) Volume 8.6 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,000.19 ลบ. TFEX Net -3,243 สัญญา ตราสารหนี้ -290 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+เบเกอร์ ฮิวจ์เผยปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมัน-ก๊าซสหรัฐต่ำสุดเป็นสัปดาห์ที่ 6

+ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวเกินคาด ขานรับคลายล็อกดาวน์

+ราชกิจจาฯ ลงประกาศมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะ 4 มีผลตั้งแต่ 15 มิ.ย.63

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 477.37 จุด +1.90% นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นหลังจากตลาดดิ่งลงหนักในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงจากกังวลโควิด-19 ระบาดรอบสองในสหรัฐ ในรอบสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ -5.6%  ดัชนี S&P500 - 4.8% และดัชนี Nasdaq -2.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่คิดเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 8 เซนต์ -0.2% ปิดที่ 36.26 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลภาวะอุปทานน้ำมันส่วนเกิน และการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบสองในสหรัฐ ในรอบสัปดาห์ราคาน้ำมัน WTI -8.3% เบรนท์ -8.4%

-ม.หอการค้าไทยกังวลสถานการณ์หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 79% ต่อจีดีพีและเกิน 80% เร็วๆนี้ 

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับลง 1.16 จุด  -0.04% เช้าเปิด -11.46 จุดวิตกดควิด-19ระบาดรอบสองในจีน

-ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 167.43 จุด -0.75% เช้าเปิด -170.21 จุด วิตกผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มในโตเกียว

-ทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลเรื่องการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.90 แสนลบ. ค่าเงินบาท 30.98 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมิ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก หลังนักลงทุนกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19รอบสองในสหรัฐ จีน และ ญี่ปุ่น โดยล่าสุดทางการปักกิ่งได้สั่งปิด "ตลาดซินฟาตี้" ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ หลังพบผู้ติดเชื้อจากตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,365-1,390 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

 CK Analyst meeting (รอซื้อเมื่ออ่อนตัว Bloomberg Consensus 21.08)

- คาดผลประกอบการจะแตะระดับต่ำสุดใน 2Q63 เนื่องจากการรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมลดลงทั้ง BEM และ CKP ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ของภาครัฐ และ ภาวะภัยแล้งตามลำดับ อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 3Q63 จะเร่งตัวขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนช่วยหนุนผลประกอบการ BEM และ CKP ตามลำดับ

- ธุรกิจก่อสร้างเหลือ Backlog เพียง 3.5 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าจะมีการประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนจะมีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป โดยบริษัทสนใจเข้าร่วมชิงงาน 1) รถไฟทางคู่เด่นชัย เชียงของ และขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท 2) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และส้มตะวันตกมูลค่ารวม 1.74 แสนล้านบาท 3) งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มูลค่า 4 พันล้านบาท และ 4) เขื่อนหลวงพระบางของบริษัท CKP มูลค่างาน 8 หมื่นล้านบาท

- งานรถไฟเชื่อม 3 สนามบินกับกลุ่ม CP อยู่ระหว่างส่งมอบที่ดินของ รฟม. ซึ่งอยู่ระหว่างการเวนคืนและการกำหนดเส้นทาง หากได้รับมอบที่ดินจะทราบรายละเอียดงานก่อสร้างและสัดส่วนงานก่อสร้างที่บริษัทได้รับในอนาคตได้

- ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2H63 และคาดว่าจะมีงานประมูลเพิ่มขึ้นช่วยเสริม Backlog ของบริษัท โดยคาดว่าผลประกอบการจะแตะระดับต่ำสุดใน 2Q63 หลังสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ในไทยเริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาใกล้ราคาเหมาะสม Consensusu เราจึงแนะนำให้ ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ดี (WICE TASCO CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกแพคเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการผ่อนคลาย Lockdown เฟส 3 และ เฟส 4 (SPA MAJOR CRC CPN SF HMPRO IMPACT)
  • หุ้นเข้าดัชนีFTSE SET Large Cap Index  FTSE รอบใหม่มีผล 22 มิ.ย. (CRC DIF) 

หุ้นมีข่าว   

(+) ADVANC (Bloomberg Consensus 224.89 บาท) รับข่าวดี! ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติ กสทช. ส่งผลให้ไม่ต้องส่งรายได้ช่วงเยียวยาผู้ใช้บริการคลื่น 900 MHz หลังหมดสัญญาสัมปทานกับ TOT ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 58-30 มิ.ย. 59 เป็นเงิน 7,221 ล้านบาท ให้ กสทช.”  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 2.96 บาท)  คว้างานจัดหาบริการคู่สายวงจรเช่า (Link) ของกรุงไทยฯ มูลค่า 165 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่งกว่า 4,532 ล้านบาท ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง ลุยพัฒนาโซลูชั่นใหม่-บริหารกระแสเงินสดและสภาพคล่อง หนุนรายได้ปี 63 เป็นไปตามเป้า 2,400 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SKY (ราคาเหมาะสม 14.70 บาท) คว้างานให้บริการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) ในสนามบินสุวรรณภูมิของ AOT มูลค่ากว่า 8,619 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี เริ่มวันที่ 1 ต.ต.63-30 ก.ย.73 ขณะที่ก่อนหน้านี้ขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้ กลุ่มคิง เพาเวอร์-เมืองไทยประกันภัย (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) NER (Bloomberg Consensus  3.03 บาท) “ชูวิทย์แจงโอนหุ้น NER 300 ล้านหุ้นให้ลูกชายไม่ได้มีนัยสำคัญ คงเหลือหุ้น 663.87 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 43.10% เคลียร์ชัดไม่ขายหุ้นแน่นอน ย้ำผลงานไตรมาส 2/63 เด้ง ทั้งปีรายได้โต 50% แตะ 17,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MCS (Bloomberg Consensus  - บาท) มือขึ้นคว้างานใหม่เติม Backlog ต่อเนื่องจากเดิมที่มีอยู่ 1.1 แสนตัน ล่าสุดรับเพิ่มอีก 11,350 ล้านบาท เตรียมส่งมอบงานญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างเจรจาโครงการขนาดใหญ่ คาดรู้ผลครึ่งปีหลังนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg Consensus 16.07 บาท) รับโชคเลิกเคอร์ฟิวช่วง 15 มิถุนายนนี้ หนุนยอดขายน้ำมันพุ่ง แถมเก็บเกี่ยวกำไรปาล์มคอมเพล็กซ์ 130 ล้านบาท ในปีนี้ด้านโบรกฟันธงปี 2563 กำไรโตต่อเนื่องจากปีก่อน รับดีมานด์ฟื้น พร้อมแนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 17.70 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CRANE (Bloomberg Consensus - บาท) เป๋าตุง! คว้างานฐานรากล็อตใหม่ 200 ล้านบาท หนุน Backlog ทะลุ 1 พันล้านบาท กินยาวสิ้น Q4/2563 ด้าน "ธงไชย" เดินเกมชิงงานใหม่ต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำปีนี้แตะ 1.2 พันล้านบาท โครงการเรียงคิวบุ๊กเพียบ แถมอวดงบ Q1/2563 พลิกกำไร 5.18 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)