'กัลฟ์' ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าโอมานเพิ่มเป็น 49%

'กัลฟ์' ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าโอมานเพิ่มเป็น 49%

“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี” ซื้อหุ้น "โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติโอมาน เพิ่มเป็น 49% จากเดิม45% เหตุ มีโอกาสเติบโตดี หลัง "มาราฟิค" ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ“ดูคุม” 25 ปีต่ออายุได้อีก 25ปี

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า จากที่บริษัทได้เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 326 เมะวัตต์ และมีกำลังการผลิตน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (โครงการ DIPWP) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ที่ประเทศโอมาน ร่วมกับ Centralised Utilities Company L.L.C. (Marafiq) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OQ SAOC. (OQ) เดิมชื่อ Oman Oil Company S.A.O.C. ในสัดส่วนร้อยละ 45 และ 55 ตามลำดับ

ทั้งนี้เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำจืดให้กับโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ คือ Duqm Refinery and Petrochemical Industrial Company L.L.C. ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพลังงานขนาดใหญ่จากสองประเทศ ได้แก่ OQ จากประเทศโอมาน และ Kuwait Petroleum International จากประเทศคูเวต โดยโครงการ DIPWP อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ถึง 2565

บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ซึ่ง Marafiq ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจน้ำ และธุรกิจก๊าซ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm เป็นระยะเวลา 25 ปี และสามารถขยายอายุสัญญาต่อได้อีก 25 ปี บริษัทจึงได้เข้าเจรจากับ Marafiq ในการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยให้ Marafiq ถือหุ้นในโครงการ DIPWP ร้อยละ 100 และให้บริษัทฯ เข้าถือหุ้นใน Marafiq ร่วมกับ OQ ในสัดส่วนร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ เพื่อจะร่วมกันพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค เช่น การผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า น้ำจืด ไอน้ำ น้ำเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling) การบริหารจัดการน้ำเสียและท่อน้ำทิ้ง การบริหารจัดการของเสียจากอุตสาหกรรม การจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ และก๊าซอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีศักยภาพ สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจที่จะเติบโตในอนาคต และสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ

สำหรับเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2563 Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) กับ OQ เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในโครงการ DIPWP และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Marafiq เป็นร้อยละ 49 ตามรายละเอียดข้างต้น โดยอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement)

ก่อนหน้านี้นางสาวยุพาพิน  กล่าวว่า คาดแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2563 จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มีผลขาดทุนราว 413 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่กลับมาใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากงวดปี 2562 ที่ทำได้ราว 33,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ปี 2564 คาดอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท เพราะโรงไฟฟ้า GSRC ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ (MW) เริ่มทยอยจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ (COD) จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง