Sideways Down

Sideways Down

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1430 / 1438 จุด แนวรับ 1410 / 1400 จุด ทางเทคนิคหากไม่หลุด 1400 จุด ยังคงลุ้นทิศทางขาขึ้นระยะสั้นได้ต่อเนื่อง หลังจากต่างชาติซื้อเป็นวันที่ 7 รอบ 8 วัน อีก 859 ล้านบาท ปัจจัยลบ คือ การวิตกต่อการระบาดรอบสองของไวรัสฯ ในสหรัฐฯ และการคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้หดตัวแรงจาก OECD และ FOMC ส่วนปัจจัยบวก คือ เฟดส่งสัญญาณใช้ทุกมาตรการ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

     1) ตลาดเริ่มกลับมาวิตกต่อการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสฯ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในรัฐเท็กซัสปรับสูงขึ้น 3 วันต่อเนื่อง หลังผ่อนคลาย lockdown

     2) เฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยจนถึงปี 2022 และคงนโยบาย QE ต่อเนื่องจนกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว (-ค่าเงิน USD)

     3) สมช. เสนอให้ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน ในช่วงที่ยังคงใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อพิจารณาว่าจะต่ออายุพ.ร.ก. ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-PPI เดือน พ.ค. คาด +0.1% (Vs เดือน เม.ย. -1.3%), Initial Jobless Claims weekly คาด 1595 (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 1877k)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบ 1402-1423 จุด ก่อนมาปิดที่ 1418.77 จุด +10.40 จุด +0.74% วอลุ่ม 7.72 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มเกษตร +7.77% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ +2.05% หลักทรัพย์ที่ขึ้นแรง > STA TRUBB AWC STEC RBF CENTEL IP SVOA INET และหุ้นร่วง >4% MINT CPF TCMC

- ตลาดหุ้นโลกปิดร่วง: แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะหดตัวแรงปีนี้ จากเฟดและโออีซีดี (-6.5% และ-7.3%) และตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่เริ่มปรับสูงขึ้นในรัฐเท็กซัส ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นโลก นำลงโดยกลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงิน DJ -1.04% S&P500 -0.53% แต่ Nasdaq +0.67% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงต่อเป็นวันที่สาม DAX -0.7% CAC -0.82% FTSE -0.1%

+ น้ำมันดิบขึ้นต่อ แต่ทองคำอ่อนลงเล็กน้อย: WTI +USD0.66 ปิดที่ USD39.60/บาร์เรล Brent +USD0.55 ปิด USD41.73/บาร์เรล น้ำมันดิบปิดบวก จากการอ่อนค่าของ USD แม้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงกว่าคาด (เพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรล Vs คาดลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำ -USD1.2 ปิด USD1,720.7/ออนซ์ จากการชะลอลงทุนก่อนผลประชุมเฟด

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update 10 มิ.ย.: สรุปผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกล่าสุดกว่า 7.3 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 4.13 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.98 ล้านราย เสียชีวิตมากกว่า 1.12 แสนราย

+ ไทย: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 4 ราย ทั้งหมดอยู่ในสถานกักกัน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,125 ราย เพิ่มโอกาสผ่อนปรนเฟส 4 ใน 12 กิจการที่มีความเสี่ยงสูง

+ วัคซีน: J&J จะเริ่มต้นการทดสอบวัคซีนในคนเร็วขึ้นเป็นกลางเดือน ก.ค. จากเดิมเดือน ก.ย. ส่วนวัคซีนอื่นๆ จะทดสอบตามแผน คือ Moderna ในเดือน ก.ค. และ Oxford/AstraZenca ในเดือน ส.ค.

- China: เมืองอู่ฮั่น พบคนที่มีเชื้อไวรัสฯ กว่า 300 คน แต่ไม่แสดงอาการ ทำให้วิตกต่อการระบาดรอบสองเพิ่มขึ้น

+/- FOMC Meeting: มีมติคงดอกเบี้ย 0-0.25% และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอย่างน้อยจนถึงปี 2022 (ผลสารวจ Dot Plot จาก 17 คน พบว่าส่วนใหญ่คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ในปี 2021-22E (มีเพียง 2 ราย คาดว่าดอกเบี้ยจะปรับขึ้นในปี 2022E) จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงรักษาเสถียรภาพของราคา (ตามคาด) นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2020E จะหดตัว -6.5% ก่อนฟื้นตัวปี 2021E ที่ +5% และปี 2022E ที่ +3.5% อัตราว่างงานปีนี้คาดอยู่ที่ 9.3% ก่อนลดลงปี 2021-22E เป็น 6.5% และ 5.5% ตามลาดับ และเฟดจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อกระตุ้นตลาดแรงงานและเศรษฐกิจให้กลับคืนสู่สภาพดี โดยยังคงจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ USD80bn (เคยซื้อสูงสุดกว่า USD300bn/เดือนในช่วงแรก และลดลงมาปัจจุบันที่ USD20bn) และ MBS USD40bn

- เศรษฐกิจไทย: กกร. คงเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ที่ -5% ถึง -3% ส่งออก -10% ถึง -5% เงินเฟ้อ -1.5% ถึง 0% โดยมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPALL PTTGC ADVANC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: AOT BBL KBANK BGRIM CPALL CBG CRC GULF PTT

Derivatives: แนะรอเปิด Short S50M20 เมื่อดีดตัวบริเวณ 956-958 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)