‘แสนสิริ-สิริ เวนเจอร์ส’ จุดพลุ ‘สมาร์ท มิเตอร์’ ครั้งแรกในไทย

‘แสนสิริ-สิริ เวนเจอร์ส’ จุดพลุ  ‘สมาร์ท มิเตอร์’ ครั้งแรกในไทย

“พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี (พร็อพเทค)” และ “สมาร์ทโฮม” กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการช่วงชิงความได้เปรียบทางธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ร่วมมือกับ สิริ เวนเจอร์ส นำร่องใช้งาน “สมาร์ท มิเตอร์(Smart Meter)” แพลตฟอร์มแสดงผล ตรวจสอบ และแจ้งเตือนการใช้นำ้และไฟแบบครบวงจร

โดยครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการควบรวมระบบดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการแสดงผลหน้าบ้านและงานบริหารจัดการหลังบ้าน นำร่องที่โครงการ “คุณบายยู (KHUN By YOO)” ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้แสนสิริโฮมเซอร์วิสแอพพลิเคชั่นตรวจสอบการใช้นำ้-ไฟ ได้แบบเรียลไทม์

รวมไปถึงแจ้งเตือนเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติของสาธารณูปโภคภายในที่อยู่อาศัย เช่น ไฟตก ไฟรั่ว ไฟแรงสูง ไฟอาร์คหรือมีปัญหา และน้ำไหลนานต่อเนื่องหรือมากผิดปกติ

เทคโนโลยีเพิ่มทางรอด

สำหรับเฟสต่อไป ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ผู้ที่ติดตั้งสมาร์ทมิเตอร์ยังสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานของตนได้โดยละเอียดเป็นรายอุปกรณ์ โดยมีเทคโนโลยีเอไอทำหน้าที่ตรวจจับการใช้งาน ซึ่งจะทราบได้ว่าควรใช้ไฟอย่างไรถึงจะประหยัด เครื่องใช้ไฟฟ้าใดที่กินไฟหรือมีความผิดปกติ

หลังจากนี้ แสนสิริยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับโฮมเซอร์วิสแอพเพื่อให้คำแนะการใช้ไฟอย่างประหยัดและคุ้มค่า เช่น ประเมินการทำงานของระบบไฟ เรียนรู้พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงระงับการทำงานของระบบไฟเมื่อพบการทำงานที่ผิดปกติ ภายในปีนี้จะเชื่อมข้อมูลไปยังระบบ LIV-24 เพื่อยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยไปอีกขั้นด้วย

เขากล่าวว่า จาก 2 ปีก่อนที่แสนสิริประกาศพันธกิจกรีนมิชชั่นออกไป ขณะนี้กำลังต่อยอดสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยเน้น 4 แกนหลักคือ พลังงานสะอาดและโมบิลิตี้ การบริหารจัดการขยะ สร้างพื้นที่สีเขียว และสมาร์ทมูฟ จากทั้งหมด 300 โครงการที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ดูแล ปัจจุบันเริ่มดำเนินการไปแล้วกว่า 60 โครงการ

เรามุ่งนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการลูกค้า ยกระดับการบริหารจัดการ ลดต้นทุน ระยะเวลา เชื่อว่าแม้เกิดวิกฤติแต่ยังมีโอกาส หากสามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ต่อไปเทคโนโลยีจะยิ่งมีความสำคัญและเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดว่าธุรกิจจะอยู่รอดได้หรือไม่

นอกจากนี้ ที่ทำควบคู่กันไปตัดสินใจร่วมลงทุนใน Semtive กว่า 15 ล้านบาท เพื่อนำร่องใช้งานกังหันลมสำหรับที่อยู่อาศัยร่วมกับโซลาร์รูฟท็อป เพื่อผลิตพลังงานสะอาดทั้งจากแรงลมและแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องต้นคาดว่าจะช่วยลูกบ้านประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 11,000 บาทต่อปี

สมาร์ทโฮมไทยโตไม่หยุด

จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวเสริมว่า การขยายผลติดตั้งใช้งานสมาร์ทมิเตอร์ในเฟสต่อๆ ไป หากเป็นโครงการใหม่จะพิจารณาไปตามต้นทุนของโครงการนั้นๆ ส่วนโครงการเดิมที่ซื้อขายไปแล้วขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกบ้าน

โดยภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ จะออกแพ็คเกจบริการสมาร์ทมิเตอร์ควบคู่ไปกับโฮมเซอร์วิสแอพพร้อมเชื่อมต่อกับระบบ Liv-24 ให้ลูกบ้านในทุกโครงการได้เลือกใช้งาน โดยราคาค่าบริการจะประกาศให้ทราบภายหลัง

บทบาทของสิริเวนเจอร์สมุ่งลงทุนเทคโนโลยี ทำงานร่วมกับอีโคซิเต็มส์พาร์ทเนอร์ รวมถึงวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้น 4 เสาหลัก คือ การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ และการสร้างความยั่งยืน หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 ได้เพิ่มโจทย์ใหม่ๆ ที่เอื้อต่อการให้บริการแบบระยะไกลและไร้สัมผัส ขณะเดียวกันมองหาสตาร์ทอัพที่สามารถเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตนิวนอร์มอล ด้านงบการลงทุนอยู่ในเม็ดเงิน 1,500 ล้านบาทที่วางไว้ตั้งแต่เปิดตัวบริษัท

พร้อมระบุว่า การพัฒนาและใช้งานสมาร์ทโฮมในตลาดไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมุมดีเวลล็อปเปอร์และผู้บริโภคทั่วไป โดยขณะนี้ราคาสามารถจับต้องได้และมีการใช้งานแพร่หลายไม่จำกัดเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ 

ต่อไปการมาของ 5จี จะช่วยเพิ่มยูสเคสใหม่ๆ ซึ่งที่บริษัทมองโอกาสไว้คือการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อจัดทำโครงการต้นแบบกับพันธมิตร