เทรดไซด์เวย์

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดไซด์เวย์... ธีมการลงทุนในช่วงนี้ คือ 'ตลาดเทรดที่ valuations ค่อนข้างแพง อาจเผชิญแรงขายจากนักลงทุนภายในประเทศ แต่ฟันด์โฟลว์ดูดีน่าจะจำกัดความเสี่ยงทางลงได้'... โดยปัจจัยสำคัญในฝั่งต่างประเทศเมื่อคืนนี้ ได้แก่ผลการประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ
(เฟด) ได้แก่ i) เฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยใกล้ 0% จนถึงปี 2565 ii) ปรับลดประมาณการ GDP สหรัฐฯปีนี้ลงสู่ -6.5% (ติดลบมากกว่าที่ consensus คาดเล็กน้อย) แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว+5.0% ในปี 2564 iii) ให้แนวนโยบายการทำ QE โดยการซื้อพันธบัตรประมาณ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯต่อเดือน ใกล้เคียงกับที่เราและ consensus คาดไว้แถวๆ 1 แสนล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือน... ทั้งนี้ การส่งสัญญาณดอกเบี้ยต่ำยาวนาน ผนวกกับมาตรการเพิ่มปริมาณเงิน น่าจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนลงและหนุนเงินบาทแข็งค่า ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าจะส่งผลดีต่อแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติไม่มากก็น้อย และน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านราคาของ SET Index ซึ่งขณะนี้เทรดที่ valuations ค่อนข้างสูงและเผชิญความเสี่ยงจากแรงขายปรับพอร์ตจากฝั่งนักลงทุนในประเทศ... ด้านปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนควรติดตามการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) ซึ่งจะมีประเด็นพิจารณาการคลายล็อกในเฟสที่ 4 รวมทั้งการพิจารณาข้อเสนอจากกระทรวงท่องเที่ยวในการออกมาตรการ 'เที่ยวปันสุข' เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภายในประเทศ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร WHA* / ย่อซื้อ CRC*, TOP*

- WHA* (เป้าพื้นฐาน 3.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.2 บาท / แนวต้าน 3.4 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 3.6 บาท (Stop loss 3.1 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ธีมการลงทุน i) ความคืบหน้าโครงการอีอีซี (เซ็นสัญญาสนามบินอู่ตะเภาเดือนนี้) ii) การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย iii) การเติบโตของ E-commerce เพิ่มความต้องการเช่าคลังสินค้า (จุดเด่นของWHA*) ... มีประเด็นข่าว WHART เตรียมซื้อสินทรัพย์เข้ากองเพิ่มอีก 3.2 พันล้านบาทใน 2H63 3) มุมมองด้าน "Pair trading" ราคาหุ้น WHA* Laggard AMATA* ที่เราแนะนำมาก่อนหน้า ... สำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ แนะนำ Long WHA* / Short AMATA* พร้อมกัน (เริ่มแนะนำวันที่ 9 มิ.ย. กำไรรวม +2.4%)

- CRC* (เป้า Consensus 38.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 36 บาท และ 35 บาท / แนวต้าน 37 - 38 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และการอัดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 3) Consensus คาดกำไรปีหน้าโตแรง +60% YoY ทำให้ PE ปี 2564 ลดลงเหลือ 26 เท่า (PE ปีนี้ +40 เท่า) ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคา IPO ที่ 42 บาท

- TOP* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 46 บาท และ 45 บาท / แนวต้าน 50 - 52.5 บาท (Stop loss 45 บาท) 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround จาก i) ไม่มีผลขาดทุนสต็อกเช่นใน 1Q63 (อิงราคาน้ำมันปัจจุบันเฉลี่ย) ii) ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร หุ้นโรงกลั่นอื่น อาทิ SPRC* (รับ 6.75 / ต้าน 7.0 - 7.5 / Stop loss 6.5 บาท) 3) PBV0.92 เท่า ยังตํ่าเพียง -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต

หุ้นมีข่าว

(0) KBANK* โดน THAI* ด้วย ยอมรับตั้งสำรองครบ (ทันหุ้น) KBANK* โดนหนี้เสีย THAI* ด้วย แต่ยันไม่กระทบธุรกิจ บิ๊ก "ปรีดี ดาวฉาย" ยอมรับ ตั้งสำรองแล้ว 100% พร้อมเดินหน้าหาทางช่วยลูกหนี้เต็มที่ เร่งลดต้นทุนพร้อมหารายได้ทางอื่น หลังประเมินรายได้ลง ด้านนักวิเคราะห์ยังมองบวกชี้มีปันผลและได้ปล่อยกู้ซอฟต์โลนมากจากฐาน เอสเอ็มอี อัพเป้ากำไรปีนี้แตะ 2.7 หมื่นล้านบาท

(0) CPF* ตั้งบ.ย่อยในหมู่เกาะบริติชฯ ลุยขายหุ้นกู้อนุพันธ์ มูลค่ากว่า 8.6 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “ซีพีเอฟ” แจ้งจัดตั้ง บริษัทย่อย CPFC ในบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ พร้อมขายหุ้นกู้อนุพันธ์ มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 8,600 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 68 ดอกเบี้ย 0.5% คาดจดทะเบียนหุ้นกู้ฯ ใน
ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ภายในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดยผู้ถือหุ้นกู้สามารถแปลงสิทธิเป็นหุ้น CPF* ได้ราว 170,434 หุ้น

(+) กสทช.เคาะเยียวยา MCOT กว่า 3.2 พันล. คืนคลื่น 2600MHz (ทันหุ้น) กสทช.เคาะเงินเยียวยา MCOT โดยคำนวณอายุการถือครองคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ ของ MCOT ระยะเวลา 6 ปี 5 เดือนเป็นเงิน 3,235.836 ล้านบาท

(+) KKP*-TISCO* งบไม่ยุบ นำส่วนเกินเป็นกำไร (ข่าวหุ้น) ทิสโก้-เกียรตินาคิน การันตีงบปีนี้ไม่แผ่วนำสำรองส่วนเกินกลับเป็นกำไร ทั้ง 2 แบงก์รวมกัน 3.7 พันล้าน KKP* ไตรมาสแรกใช้ไป 200 ล้านบาทช่วยดันงบออกมาสวย ปีนี้รับทรัพย์กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นขาขึ้นอีก ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น
64 บาท จากเดิม 46 บาท

(+) จับตา 5 หุ้นตีปีกพรุ่งนี้ รับศบค.ปลดล็อกเฟส 4 (ข่าวหุ้น) จับตา SISB-SPA-RS*-HMPRO*-PLANB* ขานรับศบค.คลายล็อกดาวน์ระยะที่ 4 พรุ่งนี้มีผล 15 มิ.ย. พร้อมทั้งยกเลิกเคอร์ฟิว ไฟเขียวโรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจสปา คอนเสิร์ต มวย ฟุตบอล ศูนย์ประชุม รวมทั้ง อีเวนต์เปิดตัวสินค้า กลับมาดำเนินกิจการ ส่วนผับ อาบอบนวด คาราโอเกะ รอไปก่อน