CPF - ซื้อ

CPF - ซื้อ

กำไรใน 2Q20F จะอ่อนตัวลง แต่จะฟื้นตัวใน 2H20

CPFC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CPF ได้เสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ (exchangeable bonds) มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2025 ผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์จะมีสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ CPF โดยหุ้นที่จะรองรับการแปลงสภาพจะเป็นหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว จึงไม่ทำให้เกิด dilution effect เราคาดว่ากำไร 2Q20F จะอ่อนตัวลง qoq เนื่องจากความต้องการที่อ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง แต่เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้นใน 2H20 โดยมีปัจจัยหนุนจาก (1) ความต้องการที่สูงขึ้นหลังจากการเริ่มเปิดธุรกิจใหม่อีกครั้ง และ (2) high season ในไตรมาส 3 ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปีนี้ เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมายที่ 36.25 บาทต่อหุ้น

 

หุ้นกู้อนุพันธ์จะไม่ทำให้เกิด dilution effect

CP Foods Capital Limited (“CPFC”) ซึ่งเป็นบริษัทลูก CPF ได้เสนอขายเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ (exchangeable bonds) มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี ครบกำหนดชำระในปี 2025 โดยหุ้นกู้อนุพันธ์ดังกล่าวจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (“SGX”) ในวันที่ 22 มิถุนายน 2020 อ้างอิงจากเงื่อนไขและข้อตกลงของหุ้นกู้แปลงสภาพ ผู้ถือจะมีสิทธิ (1) แปลงสภาพหุ้นกู้ไปเป็นหุ้นสามัญ CPF หรือ (2) ขายหุ้นกู้คืนสู่ CPFC ในวันที่ 18 มิถุนายน 2022 หรือ (3) ถือหุ้นกู้จนครบกำหนดชำระ ทั้งนี้บริษัทเตรียมหุ้นสามัญ CPF ที่ถืออยู่เดิม จำนวน 234,347,826 หุ้น เพื่อรองรับการแปลงสภาพดังกล่าวซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2.7% ของหุ้นที่จดทะเบียนแล้วในปัจจุบัน ดังนั้นหุ้นกู้อนุพันธ์ ดังกล่าวจะไม่สร้าง dilution effect และช่วยลดต้นทุนทางการเงินจาก 4.0% สู่ 3.9%. ทั้งนี้เงื่อนไขการแปลงสภาพกำหนดให้ผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์จะได้รับหุ้น CPF จำนวน 170,434.7826 หุ้นสำหรับเงินต้นหุ้นกู้ทุก200,000 ดอลลาร์สหรัฐที่ทำการแปลงสภาพ หรือ เทียบเท่ากับราคาใช้สิทธิราว 36.80 บาทต่อหุ้นของ CPF ที่อัตราแลกเปลี่ยน 31.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์จะสามารถใช้สิทธิได้หุ้น CPF ด้วยต้นทุนที่ถูกลง

 

คาดว่ากำไรปกติ 2Q20F จะลดลง qoq แต่ฟื้นตัวใน 2H20

เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q20F จะลดลงเนื่องจากปริมาณขาย ราคาสุกรและราคาไก่ที่ลดลงตามความต้องการที่ลดลงอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจทีเปราะบาง โดยราคาเฉลี่ยถึงปัจจุบันสำหรับไตรมาสนี้ (QTD) ราคาสุกรและราคาไก่ในประเทศได้ปรับตัวลดลง 3%qoq และ 6%qoq สู่ระดับ 70.00 บาทต่อ ก.ก. และ 32.83 บาทต่อ ก.ก. ตามลำดับ ในขณะที่ราคาสุกรในเวียดนามลดลง 3%qoq สู่ระดับ 75,000 ดงเวียดนามต่อ ก.ก. ด้านต้นทุนอาหารสัตว์ (ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง) ได้เพิ่มขึ้น 3%qoq และ 2%qoq เป็น 8.83 บาทต่อ ก.ก. และ 13.95 บาทต่อ ก.ก. ตามลำดับ แต่เราคาดว่ากำไรจะมีการฟืนตัวใน 2H20 โดยมีปัจจัยหนุนจาก (1) ความต้องการที่คาดว่าจะสูงขึ้นหลังจากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าตามปกติอีกครั้ง และ (2) high season ในไตรมาส 3

 

คงคำแนะนำ ซื้อ กำหนดราคาเป้าหมายที่ 36.25 บาทต่อหุ้น

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ CPF จากแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปีนี้ โดยราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 16x FY20F core EPS