อุ้ม 'วันเฉลิม' ลาม ถกสภาฯ สถานะไม่ใช่ผู้ลี้ภัย

อุ้ม 'วันเฉลิม' ลาม ถกสภาฯ สถานะไม่ใช่ผู้ลี้ภัย

“ดอน” แจงกลางสภา ยัน “วันเฉลิม” ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย ปัดก้าวล่วง-โยนกัมพูชาตามตัว ด้าน “โรม” จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจ สยบครหารู้เห็น ขณะที่ “ชวน” ยัน สรรหาป.ป.ช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โยนวุฒิสภาตัดสินใจยื่นศาลตีความ “สุชาติ”

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธาน ที่ประชุมประชุมมีการตั้งกระทู้ถามสด ถึงกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หายตัวไปจากที่พักในประเทศกัมพูชา

โดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สังคมเคลือบแคลงกับเรื่องที่เกิดขึ้นอาจมีเงื่อนงำ เพราะนายวันเฉลิมเป็นผู้ลี้ภัยจากเหตุการณ์รัฐประหาร ปี 2557 ถูกออกหมายจับที่ไม่ไปรายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถูกกล่าว หาเป็นแอดมินเพจกูต้องได้100ล้านจากทักษิณแน่ๆ แม้นายวันเฉลิมจะเป็นผู้ลี้ภัย แต่ต้องได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นคนที่รักหรือชังของรัฐบาล แต่กรณีนี้รัฐบาลไม่ใส่ใจช่วยเหลือติดตาม

“ก่อนที่จะมีกรณีของนายวันเฉลิม ก็มีผู้ถูกอุ้ม 9 คน แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่ได้รับข้อเท็จจริงจากรัฐบาลว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่เงียบหาย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลกัมพูชายังไม่ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่กระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า นายวันเฉลิมไม่เคยขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม กรณีการอุ้มนายวันเฉลิมหายนั้น คงไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอธิปไตยของประเทศกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม หากสมาชิกต้องการทราบข้อมูล 9 คนที่สูญหายในยุค คสช. ยินดีที่จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงยุติธรรมให้

จากนั้น นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถามกระทรวงต่างประเทศถึงการติดตามช่วยเหลือนายวันเฉลิมมีความคืบหน้าอย่างไร และกระทรวงต่างประเทศมีนโยบายดูแลผู้ลี้ภัยที่อยู่ต่างประเทศอย่างไร

“ดอน” แจงรอผลสอบกัมพูชา

เช่นเดียวกับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นกำลังรอฟังคำตอบจากรัฐบาลกัมพูชา ทราบว่า กัมพูชากำลังจะเริ่มเข้าไปตรวจสอบในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ต้องให้เวลากัมพูชา รัฐบาลไทยทำได้อย่างมากแค่ฝากกัมพูชาช่วยติดตาม ไม่สามารถพยากรณ์คาดเดาอะไรได้ล่วงหน้า จนกว่าจะได้คำตอบจากกัมพูชา

รัฐบาลพร้อมดูแลคนไทยในต่างประเทศทุกคน แต่คนไทยในต่างแดนมักไม่แสดงตัว จนกระทั่งเกิดปัญหาความเดือดร้อน จึงมาแสดงตนต่อสถานทูต กรณีนายวันเฉลิมน่าจะอยู่ในข่ายนี้ และตามบันทึกของกระทรวงต่างประเทศนั้น นายวันเฉลิมไม่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย รวมถึงในบัญชีของยูเอ็นเอชซีอาร์ก็ไม่มีชื่อนายวันเฉลิมอยู่ในบัญชีผู้ลี้ภัยทางการเมือง แต่ข่าวที่ออกมาเป็นการปล่อยข่าวจากฮิวแมนไลท์วอช แอมเนสตี้ ให้คนสนใจ

ส่วนเรื่องที่มีการให้เบาะแสข้อมูลคดีนี้ตามทวิตเตอร์หรือเพจต่างๆนั้น เป็นการปั่นกระแสกันได้ง่าย การปั่นกระแสตามโซเชียลจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ ดังนั้นควรรอฟังคำชี้แจงจากกัมพูชาดีกว่า

“โรม” จี้รบ.แสดงความจริงใจ

จากนั้นนายรังสิมันต์ แถลงต่อกรณีกดังกล่าวโดยย้ำว่า 3 คำถามที่ตนตั้งกระทู้ถามสด ในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมนั้น เป็นเรื่องที่สังคมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากที่ฟังคำชี้แจงทั้งจากนายดอน และนายสมศักดิ์แล้ว กลับไม่ได้คำตอบที่สังคมต้องการ โดยเฉพาะการตอบคำถามของนายสมศักดิ์ที่ไม่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง

ทั้งนี้ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายและการยุติธรรมฯ สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าจะมีการเสนอต่อกมธ.เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าวเพื่อคืนความเป็นธรรมให้นายวันเฉลิม

“ขอวิงวอนผ่านสื่อไปยังผู้มีอำนาจขอให้คืนตัวนายวันเฉลิมโดยเร็ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อศีลธรรมไทยหากรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้เพื่อที่จะไม่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง”

ในเรื่องการเชิญบุคคลมาชี้แจงต่อกมธ.จะมีความชัดเจนในวันนี้ (11 มิ.ย.) แต่ในเบื้องต้นจะมีในส่วนของผบ.ตร.และตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่มีการเสนอเพิ่มเติมในส่วนขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน จึงขอหารืออีกครั้งในวันนี้

ยันสรรหา “สุชาติ” ชอบด้วยก.ม.

ส่วนประเด็นที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับคุณสมบัตินายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ซึ่งได้รับการสรรหาจากวุฒิสภา ให้เป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งที่ยังพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ครบ2ปี ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการประชุมที่สืบเนื่องมาจากการที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาได้มีหนังสือสอบถามถึงความถูกต้องในกระบวนการสรรหาและเสนอชื่อ นายสุชาติ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาได้ยืนยันกลับไปว่ากระบวนการสรรหาชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ เป็นการรับรองการประชุมในครั้งก่อน ไม่ได้พิจารณาประเด็นใหม่ โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. เนื่องจากกระบวนการสรรหาเสร็จสิ้นแล้วและส่งให้วุฒิสภาดำเนินการลงมติเห็นชอบ

เตือน พปชร. หยุดกินรวบ กมธ.ปปช.

ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเสนอบิ๊กเนมเข้ามาเป็นกมธ.ปปช.แทนนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาว่า ขณะนี้สถานการณ์เสียงในกมธ. ป.ป.ช. รัฐบาลมี 8 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมี 6 เสียง ซึ่งถือว่าขัดหลักการตรวจสอบที่ควรให้ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่า และยิ่งมีข่าวบิ๊กเนมจะเข้ามาเพิ่มใน กมธ.ฯ จะทำให้สัดส่วนฝ่ายรัฐบาลมี 9 เสียง ฝ่ายค้าน 6 เสียง ส่งผลให้การทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลยากยิ่งขึ้น

“รัฐบาลไม่ควรจะกินรวบทุกอย่างแม้กระทั่งการตรวจสอบในฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น ในสัดส่วนที่หายไปซึ่งควรจะเป็นของฝ่ายค้านและรัฐบาลไม่ควรแทรกแซง เพื่อที่รัฐบาลจะได้มี 8 เสียง และฝ่ายค้าน 7 เสียง เชื่อว่าจะทำงานได้ดีขึ้น”