‘ออมสิน’มั่นใจสิ้นมิ.ย.นี้ ซอฟท์โลนครบ1.5แสนล.

‘ออมสิน’มั่นใจสิ้นมิ.ย.นี้  ซอฟท์โลนครบ1.5แสนล.

“ออมสิน” เผยยอดอนุมัติเงินกู้ซอฟท์โลนแล้ว ​1 แสนล้าน จากยอดขอกู้​ 1.6​ แสนล้าน​ คาดภายในมิ.ย.นี้อนุมัติได้ทั้งหมด​ ขณะที่​ ผลดำเนินงาน​ 5 เดือนแรกของปีปล่อยสินเชื่อแล้ว​ 2.15​ ล้านล้าน​ หนี้เสีย​ 6.2​ หมื่นล้าน​ หรือ​ 2.88% ของสินเชื่อรวม​

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยความคืบหน้าการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลนแก่สถาบันการเงิน นอนแบงก์ ตลอดจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารออมสิน วงเงิน 1.5​ แสนล้านบาทว่า ได้มีผู้ยื่นกู้แล้ว 1.3​ หมื่นราย วงเงินรวม 1.6​ แสนล้านบาท ปัจจุบันได้อนุมัติแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท คงเหลือวงเงินที่กำลังทยอยอนุมัติอีก 4.1 แสนล้านบาท คาดว่าภายในเดือนมิ.ย. 2563 จะสามารถอนุมัติได้ทั้งหมด

สำหรับการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน​หรือจนถึงสิ้นเดือนต.ค. 2563 มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท รวม 3.10 ล้านราย วงเงินรวม 1.14 ล้านล้านบาท 

การให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบด้วย สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินกู้สูงสุด 1 หมื่นล้านบาท และ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินกู้สูงสุด 5 หมื่นบาท ซึ่งมีผู้ยื่นกู้มากถึง 3 ล้านราย ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน จากปกติที่จำนวนรวมยอดผู้ยื่นกู้นี้จะต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี โดยธนาคารฯ ได้อนุมัติไปแล้วเกือบ 6 แสนราย

ทั้งนี้​ สำหรับผลการดำเนินงาน 5 เดือนแรก ปี 2563 มีเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 2.15 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 5.6 พันล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 5 พันล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 1.95​ หมื่นล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ จำนวน 1.89 พันล้านบาท และรายได้อื่นอีก 2.31 พันล้านบาท ซึ่งเกิดจากการปรับเปลี่ยนแผนงานให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพตามสถานการณ์

ธนาคารฯ มีเงินรับฝากฯ 2.47 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 6.55 หมื่น ล้านบาท ขณะที่​ สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2.87 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 8​หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 6.2​หมื่นล้านบาท คิดเป็น 2.88% ของสินเชื่อรวม

เขากล่าวด้วยว่า​ ถึงแม้ผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีความโดดเด่นในทุกด้าน ประกอบกับความสำเร็จของผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ประชาชน และการได้รับรางวัลยกย่องจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย ทั้งระดับประเทศ และระดับสากล แต่ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับองค์กรในทุกมิติอยู่อย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัลและสถานการณ์โควิด-19 ทั้งทางด้านพฤติกรรมลูกค้า เทคโนโลยี/นวัตกรรม กฎระเบียบ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินนั้น ได้เตรียมความพร้อมขององค์กรสำหรับความท้าทายดังกล่าว