ค้านประกันตัว บุญช่วย-ลูกชาย โกงที่ดิน 3,800 ไร่

ค้านประกันตัว บุญช่วย-ลูกชาย โกงที่ดิน 3,800 ไร่

2 ผู้ต้องหาฮุบที่ดินสงฆ์ มูลนิธิวัดพระศีมหาธาตุ จังหวัดจันทบุรีกว่า 3,800ไร่ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ตำรวจกองปราบเตรียมนำตัวส่งฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

ความคืบหน้าคดีที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำหมายศาลเข้าจับกุม นายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 80 ปี และ นายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี บุตรชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาอาญา รัชดาฯ ข้อหา “เบิกความเท็จต่อศาล, ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ และร่วมกันยักยอกทรัพย์” ที่บ้านพักจังหวัดจันทบุรี
เมื่อวานนี้ ในคดีที่โกงที่ดิน 3,800 ไร่ ของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ วัดพระศรีมหาธาตุ และกลายเป็นคดีดังเมื่อปีที่เเล้ว หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ยิงทนายฝ่ายโจทก์ ในศาลจังหวัดจันทบุรี

โดยหลังจากควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปรามตั้งแต่เมื่อวานนี้ ล่าสุดครอบครัวพร้อมคนใกล้ชิดเดินทางเข้าเยี่ยม นายบุญช่วย พร้อมเปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับ นายบุญช่วย และ ลูกชาย ทั้ง 2 คนไม่ได้ร้องขอหรือต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ เมื่อคืนที่ผ่านมานอนหลับตามปกติ ส่วนเรื่องสุขภาพของ นายบุญช่วย เป็นไปตามวัยที่อายุมากแล้ว และปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องคดีความให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า จากการสอบปากคำ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและปฏิเสธไม่ให้ปากคำ ในชั้นพนักงานสอบสวนยืนยันจะให้ในชั้นศาลเท่านั้น ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้หรือไม่ให้ปากคำก็ไม่ได้กระทบต่อสู้คดีเนื่องจากพนักงานสอบสวนก็มั่นใจว่ามีพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะเอาผิดได้ พนักงานสอบสวน จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขับศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ (11มิ.ย.) พร้อมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากคดีมีความผิดร้ายแรง รวมทั้งคดีนี้เอกสารหลักฐานจำนวนมาก เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิง แม้ว่าขณะนี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ยืนยันว่า ตำรวจดำเนินคดี ตามพยานหลักฐาน

โดยตำรวจจะดูพฤติกรรมของผู้ต้องหาเป็นหลักที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำความผิด สำหรับคดีนี้จะส่งผลกับคดีอื่นที่ตัดสินในศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ทายาทที่ดิน "โกศลานันท์" เปิดใจ สามีไม่ตายฟรี

ขณะที่ นางเขมจิรา บัณฑูรนิพิท ทายาท 1 ใน 6 คน ของ นายสมพล โกศลานันท์ (ตา) เจ้าของที่ดินที่เสียชีวิตไปแล้ว อดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ขณะนั้น อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจ ผู้ก่อเหตุยิงฝ่ายโจทก์ในศาลจังหวัดจันทบุรี

นางเขมจิรา เปิดใจทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่สามีรวบรวมไว้เป็นหลักฐานสำคัญ ทำให่ตำรวจสอบพยานเพิ่มอีกนับ 100 ปาก วันนี้การเสียชีวิตของอดีตสามีไม่สูญเปล่า พร้อมเล่าเรื่องราวที่ร่วมกันต่อสู้มาหลายปี การต่อสู้คดีเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม การต่อสู้คดีเป็นเรียกร้องความเป็นความเป็นธรรม และต้องการทำตามศรัทธาของญาติโยม ที่ทวงคืนที่ดินให้กลับสู่สมบัติของพระพุทธศาสนา สาเหตุที่อดีตสามีก่อเหตุ เพราะถูกกดดัน เกิดจากความเครียดสะสม ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างสูง และยังถูกทางฝ่ายโจทก์ร้องเรียนให้ถอดยศ ว่าเอาเวลาราชการมาทำคดี และที่ผ่านมาเวลาขึ้นศาลมีการโต้เถึยงกันบ่อยครั้ง เคยส่งนิ้วกลางในห้องพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ยังมีการท้าตบกับทนายหญิงฝ่ายของเธอหน้าศาล

ปมปัญหาที่ผ่านมา คือ การแถลงเท็จปกปิดทายาท โกศลานันท์ ว่ามี 3 คน แต่ในความเป็นจริงมี 6 คน โดยฝ่ายโจทก์ อ้างว่า ซื้อที่ดินจ่ายครบ 14 ล้าน ตั้งแต่ปี 2550 แล้วไม่โอนจึงมาทวงทายาท และเกิดการการฟ้องร้องกัน แต่โจทก์ไม่มีสัญญาซื้อขาย ไม่มี นส.3 คือ กระดุมเม็ดแรกที่ปกปิดปัญหาฟ้องเท็จ นายสมพล ขายที่ดิน ให้กับ นายบุญช่วย

จากการบอกเล่าโดยมารดา ที่ดินดังกล่าว นายสมพล ขายให้พระที่วัด เป็นการทำบุญเรียไร่เงินทำบุญมาซื้อ จำนวน 4,000 ไร่ ไร่ละ 3,000 บาท จำนวน 12 ล้าน ในปี 2515 โดยผ่อนชำระ แต่ชำระกัน ไม่หมด ค้างชำระ 2.5 ล้าน

ต้นตอปัญหา มาจากการฟ้องเท็จ นส.3 เอกสารที่ดิน 4,000 ไร่หาย แต่ไม่เคยแจ้งความ ซ้ำยังปกปิดทายาท เจตนาของอดีตสามีที่ต้องมาเสียชีวิต เพราะเป็นคนรักความยุติธรรม เห็นว่าเป็นที่ดินของพุทธศาสนา จึงต้องการเข้ามาช่วย วันนี้สามีไม่ตายฟรี

นอกจากนี้ยังที่ดินที่ จ.ชลบุรี 1,300 ไร่ ที่ดินสงขลา 600 ไร่ นอกเหนือจากที่ดิน 1,400 ไร่ ที่เป็นของมูลนิธิก็ยังถูกโกงหายไปด้วย พินัยกรรมน่าจะปลอม เพราะไม่เหมือนลายมือของพระกิตติพุทธโธ อดีตเจ้าอาวาส ที่มรณะภาพไปแล้ว