สั่ง กต. ดูปมอุ้ม 'วันเฉลิม' นายกฯยันพร้อมช่วยเหลือ

สั่ง กต. ดูปมอุ้ม 'วันเฉลิม' นายกฯยันพร้อมช่วยเหลือ

นายกฯ ชี้ปมอุ้ม “วันเฉลิม” ไม่ไปก้าวล่วงประเทศอื่น แต่พร้อมร่วมมือช่วยเหลือ เผย กต. อยู่ระหว่างดำเนินการ ด้านตำรวจกัมพูชาปัดเอี่ยวกรณีหายตัว เผยเตรียมสอบสวนขณะที่กมธ.ยุติธรรมเล็งเรียก3หน่วยงานให้ข้อมูล “โรม” เผยชงสภาตั้งกระทู้ พร้อมเชิญนายกฯแจงวันนี้

จากกรณีการหายของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกอุ้มหายตัวในกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวันที่4 มิ.ย. วานนี้ (9 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่รู้จักนายวันเฉลิมเลยแต่อะไรที่ร่วมมือได้ก็ร่วมมือไป

ทั้งนี้ตนก็ได้สอบถามฝ่ายความมั่นคงถึงข้อมูลของนายวันเฉลิมทราบว่าหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศจึงได้ให้ติดตามว่าหนีไปเรื่องอะไรอย่างไร ดังนั้นจะไม่ไปก้าวล่วงในอำนาจของประเทศอื่นๆเพราะก็มีกลไกตรวจสอบของเขาพร้อมขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวนั้นก็จะดำเนินการให้เพียงแต่ต้องบอกว่าเขาไปอยู่ที่ไหนอย่างไรขอให้รอการสอบสวนและติดตามยืนยันยินดีร่วมมือ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศและสถานทูตก็กำลังดำเนินการอยู่

ด้านนายเชย์ คิม เคือน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางการและตำรวจกัมพูชาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับกุมนายวันเฉลิม ขณะนี้ตำรวจกำลังเปิดสอบสวนและข้อมูลเรื่องการหายตัวไปของนายวันเฉลิมยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้กลุ่มสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” เปิดเผยอ้างปากคำพยานและภาพจากกล้องวงจรปิดว่า นายวันเฉลิมถูกลากตัวขึ้นรถในกรุงพนมเปญกลางวันแสกๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนต่อมา
ทำให้โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาแถลงว่า รายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์อาจเป็น “เฟคนิวส์”

นอกจากนี้เอเอฟพีรายงานด้วยว่า นายวันเฉลิมถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เขาเปิดเพจเฟซบุ๊ควิจารณ์รัฐบาล ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหายตัวไปเขาโพสต์ข้อความบนเพจว่า“Compromise Mode” หรือเข้าสู่โหมดประนีประนอม

จากข้อมูลของฮิวแมนไรท์วอทช์ มีนักกิจกรรมคนดังของไทยอย่างน้อย 8 คน ที่ออกนอกประเทศหลังรัฐประหารครั้งล่าสุดไปอยู่ลาว กัมพูชา และเวียดนาม สุดท้ายต้องหายสาบสูญ
พี่สาวร้องกมธ.กฎหมายสอบ

วันเดียวกันน.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม เข้ามายื่นเรื่องต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อให้กมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
โดยนางสาวสิตานัน กล่าวว่า อยากให้กมธ.เร่งตามหาและติดตามน้องชายกลับมาเร็วๆ ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันแชร์จนทำให้เกิดการติดตามว่านายวันเฉลิมอยู่ที่ไหน ขอบคุณหลายๆองค์กรที่เข้ามาช่วยเรา โดยขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานรัฐหน่วยงานไหนติดต่อมายังครอบครัวแต่อย่างใด และพร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐเพื่อร่วมกันตรวจสอบการหายตัวไปของนายวันเฉลิม

ชงสภาตั้งกระทู้จี้ถามนายกฯ

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับกมธ.โดยตรง และที่สำคัญเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรก และรัฐบาลไม่ได้สร้างความกระจ่างและไม่สร้างความเชื่อมั่นว่าจะนำความยุติธรรมคืนมาอย่างไร ดังนั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลทำงานอย่างใกล้ชิด รัฐบาลมีหน้าที่ประกันความปลอดภัยไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะอยู่สถานะอะไร หากรัฐบาลล้มเหลวในเรื่องนี้แล้วเราจะไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

เบื้องต้นตนจะเสนอเรื่องให้กมธ.พิจารณาในสัปดาห์นี้เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง เช่น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงต่างประเทศ พร้อมกับในวันที่ 10 มิ.ย.จะมีการยื่นกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงและสร้างความกระจ่างให้กับสังคม เพราะเวลาเป็นสิ่งสำคัญของนายวันเฉลิม หวังว่านายกฯจะมาตอบคำถามที่สังคมสงสัยด้วยตัวเอง

“แม้เหตุจะเกิดในต่างประเทศ แต่รัฐบาลไทยต้องทำหน้าที่ติดตามแสวงหาผ่านกระบวนการทางกฎหมายของประเทศ” นายรังสิมันต์ กล่าว

“ก้าวไกล” อัดรัฐปิดปาก

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เห็นว่าการแจ้งความของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน คนหายไปทั้งวันเวลาผ่านไป4วันแล้ว ไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่เมื่อมีคนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกลับดำเนินการทันที การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย การพยายามปิดปากคนเห็นต่างจากผู้มีอำนาจกระทำจนเหมือนเป็นสิ่งปกติ

ผมจึงอยากเรียกร้องให้ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ลงมาสืบหาความจริงเรื่องคนถูกอุ้มหายครั้งนี้ด้วยตนเอง เพราะท่านพูดมาตลอดว่าความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งสำคัญ

ตำรวจรวบ3นักกิจกรรม

วันเดียวกัน ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ ได้เชิญตัวนายปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ นายชนินทร์ วงษ์ศรี และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ “เพนกวิน”แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.)หลังทำกิจกรรมผูกโบว์ขาวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ นายวันเฉลิม

พร้อมแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12 และมาตรา 56 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ด้านเพจเฟซบุ๊ค “เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” โพสต์ข้อความ เชิญชวนพี่น้องประชาชนผูกโบว์ขาวที่รถ ที่รั้วบ้าน ที่ไหนก็ได้ ผูกกันให้เต็มเมือง เพือแสดงจุดยืนทวงความยุติธรรมโดยวิธีสันติครับ ขอบคุณมากครับ #โบว์ขาวทวงความยุติธรรม

เห็นว่า มีการตั้งข้อหาในลักษณะเบี่ยงประเด็น เพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวและยับยั้งการแสดงออกของกลุ่มนักศึกษา จึงขอให้ดำเนินการปล่อยตัวนักศึกษาโดยเร็วที่สุด