ผันผวน
Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :
คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวต้าน 1455 / 1463 จุด แนวรับ 1428 / 1416 จุด ปัจจัยลบ คือ แรงขายตลาดหุ้นไทยคาดปรับเพิ่มขึ้น หลังทางเทคนิคเกิดสัญญาณ Overbought นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิวันแรกในรอบ 6 วันทำการ และค่าเงินบาทอาจอ่อนค่า จากการออกมาตรการแทรกแซงของธปท. ส่วนปัจจัยบวก คือ ผลประชุมครม. วันนี้อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นไทยเที่ยวไทย และผลประชุมเฟดพรุ่งนี้คาดส่งสัญญาณบวกต่อการสนับสนุนมาตรการการเงินเพิ่มเติมในอนาคต
ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่
1) ธปท.อาจพิจารณาออกมาตรการ เพื่อลดการแข็งค่าของเงินบาท (-ต่อตลาดหุ้นไทย)
2) ผลประชุมครม.วันนี้ อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (+หุ้นกลุ่มอิงท่องเที่ยว)
3) ทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญญาณเตือนว่ามีการซื้อมากเกินไป (Overbought) และ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิวันแรกรอบ 6 วันทำการ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: EU-1Q20E GDP ครั้งสุดท้าย คาด -3.8% QoQ (Vs 4Q19 +0.1%), USA-Wholesales Inventories เดือน เม.ย. คาด +0.4% MoM (Vs -1% MoM)
สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 6: ตลาดหุ้นไทยเปิดบวก 19.25 จุด ในช่วงเปิตลาด ก่อนอ่อนตัวลงตลอดการซื้อขายมาปิดที่ 1438.66 จุด +2.96 จุด +0.21% วอลุ่ม 1.05 แสนล้านบาท หุ้นนำขึ้น ได้แก่ กลุ่มรับเหมาฯ +2.41% ไฟแนนซ์ +1.8% แต่กลุ่มธนาคาร -1.5% หลักทรัพย์ที่ปรับขึ้น >4% BAM MINT SAWAD AWC ESSO AMATA CK TKN NER PRM PLANB ERW WORK COMAN TTCL SPACK PLAT ASAP IHL GCAP BJCHI และ หุ้นร่วง >3.5% BBL SPRC OSP COLOR RBF
+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ข่าวการอาจมีการควบรวมกิจการระหว่าง Gilead ผู้ผลิตยาของสหรัฐฯ และ AstraZeneca ผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ กลายเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดของโลกมูลค่ารวมกันกว่า 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +1.7% Nasdaq +1.13% S&P500 +1.2% แต่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง หลังรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีต่ำกว่าคาด DAX -0.22% CAC -0.43%
+/- น้ำมันดิบร่วง ส่วนทองคำฟื้นตัว: การผิดหวังที่กลุ่มโอเปคพลัสขยายการลดการผลิตน้ำมันที่ระดับเดิม 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปเพียง 1 เดือน(Vs คาดการณ์อย่างน้อย 3 เดือน) และซาอุฯ ปรับเพิ่มการผลิตสูงขึ้น (ตามโควต้า Vs เดิมคาดว่าจะลดเพิ่มเองอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ส่งผลลบต่อราคาน้ำมันดิบโลก WTI -USD1.36 ปิดที่ USD38.19/บาร์เรล Brent -USD1.5 ปิดUSD40.8/บาร์เรล ส่วนทองคำฟื้นตัว USD22.10 +1.3% ปิดUSD1,705.10/ออนซ์ จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังร่วงแรง
ประเด็นสำคัญ
- COVID-19 Update วันที่ 8 มิ.ย.: สรุปผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกล่าสุดกว่า 7 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 4.04 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.94 ล้านราย เสียชีวิตมากกว่า 1.1 แสนราย
+ ไทย: ศบค.รายงานจานวนผู้ติดเชื้อใหม่วันจันทร์ เพิ่ม 7 ราย ทั้งหมดอยู่ในสถานกักกัน มาจาก ปากีสถาน 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 4 ราย และสหรัฐฯ 1 ราย (Vs วันอาทิตย์ที่ผ่านมา 8 ราย) จานวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,119 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนการผ่อนปรนระยะ 4 เตรียมพิจารณาเปิดเพิ่ม ศูนย์ประชุม สถานบันเทิง ผับบาร์ โรงเรียน แต่อาจมีบางส่วนขยับไปในระยะ 5 ด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุขและความปลอดภัย ส่วนในอนาคตอาจมีการทดลองอนุญาตให้คนต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายแล้ว เข้ามาท่องเที่ยวไทยได้ โดยต้องมีการกาหนดแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจน
- EU: ประธานอีซีบี Lagarde กระตุ้นให้สภาอียูเร่งอนุมัติแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร เพื่อชะลอภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยคาดเศรษฐกิจอียูหดตัว -13% QoQ ใน 2Q20E และสนับสนุนมาตรการให้เงินเฟ้อไปถึงเป้าหมาย 2%
+ Japan: 1Q20 GDP เติบโต -2.2% QoQ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ -3.4% QoQ
- ค่าเงินบาท: ธปท. เตรียมออกมาตรการคุมเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็ว หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ได้เชิญธนาคารฯ ไปให้ความเห็นต่อมาตรการที่ธปท. อาจใช้แทรกแซง
+ ท่องเที่ยวไทย: รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอครม. วันนี้ ปลดล็อกท่องเที่ยวในประเทศ ระยะแรกเสนอท่องเที่ยวในภูมิภาคก่อน
แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPALL PTTGC ADVANC
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BAM CENTEL ERW AAV SAWAD MTC PRM CK
Derivatives: แนะรอเปิด Short S50M20 หากหลุดโซน 958 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)