ถอดรหัส ‘ลี เซียนลุง’ สิงคโปร์หลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไร

ถอดรหัส ‘ลี เซียนลุง’ สิงคโปร์หลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไร

ถอดรหัสวาทะจากวิสัยทัศน์ของ "ลี เซียนลุง" นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่ปราศรัยครั้งแรกเกี่ยวกับทิศทางที่สิงคโปร์จะเดินไปในอนาคตหลังยุคโควิด-19

สิงคโปร์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เจอศึกหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ตอนแรกดูเหมือนควบคุมได้ แต่เมื่อเจอคลัสเตอร์ใหม่จากกลุ่มแรงงานต่างด้าวทำให้สถานการณ์หนักหน่วงมาก

อย่างไรก็ตาม การมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ทำให้ก้าวต่อไปของสิงคโปร์หลังโควิด-19 เดินไปอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ ซึ่งเป็นการปราศรัยครั้งแรกเรื่องอนาคตสิงคโปร์หลังโควิด-19 ที่จะมีตามมาอีกหลายตอน 

“ช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นปีที่ปั่นป่วนและยากลำบากสำหรับเราทุกคน แต่แม้ความท้าทายจะเข้มข้นเพียงใด ผมอยากบอกคุณว่า อย่ากลัว อย่าเสียกำลังใจ สิงคโปร์ไม่ลังเลในการเดินหน้าต่อไป ผมเชื่อว่าเรายังคงมีอนาคตสดใสได้ด้วยตัวเราเอง และผ่านพ้นวิกฤตินี้อย่างดีและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

นายกฯ ลีย้ำว่า ด้วยความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า สิงคโปร์ต้องเรียนรู้เรื่องการใช้ชีวิตกับโควิด-19 ในระยะยาว ปรับชีวิต การทำงาน และการพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสพร้อมๆ กับทำให้ตนเองปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาสาธารณสุข ยังเป็นปัญหาร้ายแรงด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองด้วย เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย

เพื่อรองรับผลกระทบการแพร่ระบาด รัฐบาลสิงคโปร์ใช้งบประมาณเยียวยา 4 ครั้งเป็นเงินเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) เป็นการดึงเงินสำรองที่เหลือจากในอดีตมาใช้โดยไม่ต้องกู้ยืม แต่นายกฯ ลีเตือนว่า การใช้จ่ายระดับนี้ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป

“ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมาตรการเหล่านี้ไม่สามารถปกป้องสิงคโปร์พ้นจากการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกได้”

ผู้นำสิงคโปร์กล่าวด้วยว่า การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศจะชะลอลงไปอีก โลกจะไม่กลับไปสู่เศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างและเชื่อมต่อกันเหมือนเดิมได้ในเร็วๆ นี้ การเดินทางของผู้คนถูกจำกัดมากขึ้น การเดินทางไปต่างประเทศมีน้อยลงมาก ขณะที่การตรวจสุขภาพและกักกันตัวจะกลายเป็นปทัสถาน

“การไปเที่ยวกรุงเทพหรือฮ่องกงด้วยเที่ยวบินราคาประหยัดจะทำไม่ได้ง่ายๆ อีกต่อไป” นายกฯ ลีกล่าวและว่าประเทศทั้งหลายยังพยายามพึ่งพาประเทศอื่นให้น้อยลงด้วย โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่จำเป็น ซึี่งนี่จะต้องนำไปปรับใช้อย่างมียุทธศาสตร์

สิงคโปร์ได้ประโยชน์มหาศาลจากเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างและเชื่อมต่อ แต่ต่อไปนี้จะต้องเตรียมตัวรับอนาคตที่แตกต่างไปจากเดิมมาก อย่างไรก็ตาม แม้การค้าและการลงทุนอาจหดตัวลง สิงคโปร์เชี่ยวชาญในการเชื่อมตัวเองเข้ากับโอกาสใหม่และสร้างงานใหม่ เพราะความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและชื่อเสียงที่สั่งสมมาหลายสิบปี

และแม้ความไม่แน่นอนยังรออยู่ข้างหน้า นายกฯ ลีย้ำถึงข้อได้เปรียบของประเทศในหลายๆด้าน และการจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเปิดเผยและโปร่งใส ยิ่งเสริมสร้างจุดยืนของสิงคโปร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหา นักลงทุนจะให้คุณค่ากับคำรับรองจากรัฐบาลว่าเล่นตามกติกา ผู้คนที่เข้าใจว่าอะไรคือความเสี่ยง และระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพ ช่วยให้ภาคธุรกิจปฏิบัติการต่อไปได้แม้เกิดวิกฤติ”

สำหรับการเตรียมตัวรับความไม่แน่นอน สิงคโปร์มีแผนปรับโฉมเศรษฐกิจ ลงทุนฝึกอบรมพนักงาน ทำภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็นดิจิทัล สร้างนวัตกรรมและความสามารถด้านวิจัยและพัฒนา