คุมเข้มห้ามแท็กซี่จอดหน้าห้าง แก้ปมฉาวตั้งวินเก็บเงินหัวคิว

คุมเข้มห้ามแท็กซี่จอดหน้าห้าง แก้ปมฉาวตั้งวินเก็บเงินหัวคิว

ตำรวจจราจร ลงพื้นที่ตรวจเข้มห้ามจอดแท็กซี่หน้าห้างฯดังย่านปากน้ำ พร้อมเข้มงวดกวดขัน-ตรวจตราทุก 1 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานส่งอาหาร ยอมรับแท็กซี่จอดจำนวนมากทุกวัน แต่ถ้าเจอตำรวจจะวิ่งผ่านไม่จอดรับผู้โดยสาร ด้านโชเฟอร์ผู้เสียหายหอบหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดี

ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊ค “แท็กซี่รับจ้างสาธารณะ” โพสต์คลิปวีดีโอสนทนา โดยระบุว่าเป็นการพูดคุยกับวินเถื่อน BTS แพรกษา ซึ่งมีการตั้งวินและเก็บเงินหัวคิวแท็กซี่ที่ต้องการจะจอดรับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้า โดยจะมีจุดสังเกตุว่า ถ้ามีการจ่ายเงินแล้ว จะมีการติดสติ๊กเกอร์เป็นรูปตัว “C” เป็นสัญลักษณ์เพื่อความสะดวกในการจอดรับผู้โดยสาร โดยระหว่างการพูดคุยได้มีการขึ้นเสียงพร้อมกับกระชากเสื้อและดึงแขน ทำให้โชเฟอร์คนดังกล่าวต้องเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 8 มิถุนายน ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณหน้าห้างดังกล่าว พบว่าบริเวณดังกล่าวอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีปากน้ำ โดยที่บริเวณด้านหน้ายังพบว่ามีรถแท็กซี่สาธารณะจอดหลายคันอยู่ริมถนนเพื่อรอรับผู้โดยสาร เมื่อได้ผู้โดยสารก็ขับออกไป และมีคันใหม่เข้ามาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาตลอด โดยเท่าที่สังเกตยังไม่พบว่ามีใครมาเรียกเก็บเงินกับแท็กซี่ หรือเดินคุมคิวรถแท็กซี่ที่จอดด้านหน้าแต่อย่างใด

จากการสอบถามพนักงานแกร็บฟู้ดที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้าห้างบิ๊กซี เปิดเผยว่า ปกติถนนด้านหน้าห้างบิ๊กซีจะมีรถแท็กซี่มาจอดทุกวันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการ ยอมรับว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ แวะเวียนเข้ามาตรวจตราบริเวณนี้บ่อยขึ้น ซึ่งถ้าช่วงเวลาไหน หรือวันไหนที่ไม่มีตำรวจมาตรวจก็จะมีแท็กซี่มาจอดด้านหน้าตามปกติเหมือนเดิม วันไหนมีตำรวจมาตรวจแท็กซี่ก็ไม่มาจอด ลักษณะอย่างนี้เป็นประจำ

ขณะที่วันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ มาตรวจตราดูความเรียบร้อย โดยระบุว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้เข้มงวดกวดขันการจราจร บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และบังคับใช้กฎหมายสำหรับแท็กซี่ที่ฝ่าฝืนจอดรถในที่ห้ามจอดกีดขวางจราจร พร้อมกับมีมาตรการจะต้องเข้ามาตรวจตราทุก 1 ชั่วโมง

ส่วนทางด้านนายทรงชัย (สงวนนามสกุล) โชเฟอร์แท็กซี่ วัย 36 ปี ที่เป็นคนถ่ายคลิปได้เดินทางเข้าให้ปากคำและมอบหลักฐานเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพชายชุดดำ ที่มากระชากคอเสื้อและข่มขู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกาย, สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และข้อหาอื่นๆ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาเข้าข่ายข้อหาใดบ้าง