'ความมั่งคั่ง' สร้างได้ แม้เริ่มจากศูนย์

'ความมั่งคั่ง' สร้างได้ แม้เริ่มจากศูนย์

เปิดทริค 4 ขั้นตอนในการเริ่มสร้าง "ความมั่งคั่ง" ที่ใครๆ ก็สามารถสร้างเองได้ ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ การวางแผนการเงินและมีวินัยในการออมที่ดีและรู้จักการนำเงินออมไปลงทุนเพื่อสร้างมูลเพิ่มที่เหมาะสม

การสร้างความมั่งคั่ง สำหรับหลายๆ คน อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แค่ใช้ชีวิตให้พ้นเดือนชนเดือนก็ยากแล้ว ไหนจะหนี้สินที่มีอยู่อีกล่ะ จะมาสนใจอะไรกับความมั่งคั่ง รู้สึกไร้ความหวังกับการสร้างความมั่งคั่งเสียเหลือเกิน

อยากให้ทุกคนมีกำลังใจครับ ความมั่งคั่ง สร้างได้ทุกคนแน่นอน แต่ระยะเวลาและปัจจัยหลายๆ อย่างคงไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เกิดความมั่งคั่ง ก็คือ วินัยของตัวเองนั่นเอง วันนี้ผมเลยมีทริคดีๆ ในการเริ่มสร้างความมั่งคั่งมาฝากทุกคนกัน เริ่มทำได้เร็วเท่าไรยิ่งดีครับ แม้เงินเดือนเริ่มต้นจะน้อย ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แม้ในตอนแรกเราจะรู้สึกว่ามันน้อย แต่วันนึง ผ่านไปสองสามปี เราจะตกใจกับเงินก้อนที่เราเก็บได้แน่นอน

  • ขั้นตอนแรก : แบ่งเก็บออม

เป็นจุดเริ่มต้นของการประสบความสำเร็จในการสร้างความมั่งคั่งกันเลยก็ว่าได้ เพราะหากเรามีวินัยในการเก็บออมแล้วจะทำให้เรามีเงินออมเพื่อเก็บไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ แต่ในเรื่องของการเก็บออมนี้ เราจะต้องเปลี่ยนนิสัยที่เหลือจากการใช้จ่ายเท่าไหร่ค่อยเก็บ เป็นต้องเก็บก่อนที่จะใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้เราสามารถเก็บเงินออมได้อย่างแน่นอนและเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้อีกด้วย โดยสัดส่วนในการเก็บออมจะอยู่ที่เริ่มต้นประมาณ 10% ของรายได้ เช่น หากเราได้เงินเดือน 15,000 บาท ก็แบ่งเก็บออมประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน

  • ขั้นตอนที่สอง : การบริหารค่าใช้จ่าย

โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายประจำเท่านั้นนะครับ ค่าใช้จ่ายประจำก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระในแต่ละเดือน เช่น ค่าหอ, ค่าน้ำ-ไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าอาหาร, ค่าผ่อนรถ, ค่าผ่อนบ้าน ซึ่งโดยทั่วไปเราควรบริหารค่าใช้จ่ายให้อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 60% ของรายได้ เช่น หากเราได้เงินเดือน 15,000 บาท ก็แบ่งบริหารเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 9,000 บาท ซึ่งต้องพยายามบริหารค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

  • ขั้นตอนที่สาม : เงินสำรองกรณีฉุกเฉิน

ในกรณีนี้คนไทยส่วนใหญ่มักจะลืมกันเงินส่วนนี้ไว้ แต่การวางแผนการเงินที่ดีจะต้องมีการเผื่อเงินในส่วนนี้ เพื่อใช้ในกรณีที่ไม่คาดฝัน เช่น กรณีว่างงานหรือตกงาน อย่างตอนนี้คนน่าจะเห็นภาพได้ชัดเลยครับ จากการเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาดนั่นเอง, การประสบอุบัติเหตุ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งหากมีเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นและเราไม่ได้มีการกันไว้ อาจทำให้เราเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยทั่วไปควรจะมีการกันเงินในส่วนนี้ไว้ที่ประมาณ 10% ของรายได้ เช่น หากเราได้เงินเดือน 15,000 บาท ก็แบ่งเก็บไว้ยามฉุกเฉิน 1,500 บาทต่อเดือน

  • ขั้นตอนสุดท้าย : เพิ่มความสุขให้ตัวเอง

เรื่องนี้เป็นเรื่องของการคืนกำไรให้กับตัวเอง เพราะแน่นอนว่าเมื่อเราทำงานหนัก เราก็ต้องการพักผ่อนหรือให้ความสุขบางอย่างกับตัวเองบ้าง ซึ่งการวางแผนการเงินไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถนำเงินที่ได้มาไปใช้ในสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เลย แต่เราสามารถนำส่วนที่เหลือที่เราวางแผนไว้ประมาณ 20% ของรายได้ ไปใช้ช๊อปปิ้ง หรือท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตามหากใช้เงินในส่วนนี้ไม่หมด ก็อาจจะนำเงินในส่วนนี้ไปสมทบกับเงินออมที่มีอยู่เพื่อนำไปลงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเงินออมที่มีอยู่ได้

ทำตามนี้อย่างต่อเนื่อง ความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ ซึ่งเมื่อเรามีการวางแผนตามขั้นตอนข้างต้นอย่างดีแล้ว ก็จะสามารถทำให้เราบริหารรายได้และค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม และยังมีเงินเหลือเก็บไปไว้ใช้ในการลงทุนเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่เราต้องการได้อีกด้วย

ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้น เงินที่เราเก็บออมไว้เดือนละ 10% นั้น อาจจะดูไม่มากนัก แต่ถ้าเรามีวินัยในการออมที่ดีแล้วและนำไปลงทุนที่ถูกต้องเหมาะสม เราก็สามารถที่จะมีเงินเก็บได้ไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างเช่นกรณีนี้เราแบ่งเก็บออมไว้เดือนละ 1,500 บาท เป็นประจำเป็นเวลา 5 ปี แล้วเรานำเงินเก็บออมนั้นไปลงทุนที่มีผลตอบแทนอยู่ที่ 6% ต่อปี เชื่อมั้ยครับว่าเมื่อถึงสิ้นปีที่ 5 เราจะมีเงินออมเก็บไว้ถึงประมาณ 106,000 บาท

จะเห็นได้ว่าหากเรามีการวางแผนการเงินและมีวินัยในการออมที่ดีและรู้จักการนำเงินออมไปลงทุนเพื่อสร้างมูลเพิ่มที่เหมาะสมแล้ว แม้ว่าเราจะมีรายได้ไม่มากนัก แต่ก็สามารถมีเงินก้อนเก็บไว้ได้จำนวนมากภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น