เล็งสร้าง 'นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์' รับผู้พ้นโทษมีทำงานทำ

เล็งสร้าง 'นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์' รับผู้พ้นโทษมีทำงานทำ

รมว.ธ.เผย เดินหน้า “ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” ดันรัฐบาลประกาศสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ เล็งสร้าง “นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์” รับผู้พ้นโทษมีทำงานทำ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยครั้งที่1/2563โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 

พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมว่าที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาผลสำเร็จของวาระแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน(พ.ศ.2561-2562)การดำเนินงานตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนความก้าวหน้าในการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนระยะที่1 (พ.ศ.2562-2565)ความก้าวหน้าของร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่4แนวทางการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนปี2563และเห็นชอบในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ4คณะได้แก่

1.คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนและขับเคลื่อนแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ2.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน3.คณะอนุกรรมการติดตามพิจารณาและคัดเลือกองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนและ4.คณะอนุกรรมการประสานการดำเนินงานตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนโดยผู้แทนจากกระทรวงแรงงานได้รายงานถึงความสำเร็จในการดูแลแรงงานในการประมงผิดกฎหมายจนได้รับประกาศปลดจากใบเหลืองเรื่องการทำประมงผิดกฎหมายหรือIUU Fishing

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ชื่นชมการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมโดยเฉพาะการผลักดันให้รัฐบาลประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติการประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเป็นประเทศแรกในเอเชียและการส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับเด็กเยาวชนและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยที่ประชุมเสนอให้กระทรวงยุติธรรมบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ต้องขังทั้งช่วงระหว่างที่ถูกควบคุมตัวและหลังจากพ้นโทษแล้วบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะภาคธุรกิจในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชนและสร้างการรับรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติพันธกรณีระหว่างประเทศและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ตนได้เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาถึงการนำแผนไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างแท้จริงอาทิกรณีศึกษาเรื่องเด็กนักเรียน2คนที่โดนข่มขืนกระทำชำเราโดยครู5คนและรุ่นพี่ที่จ.มุกดาหารเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมีหน่วยงานต่างๆลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเด็กจนทำให้เกิดการทำงานที่ซับซ้อนและสับสนเป็นการทำงานที่อาจจะไม่ได้ผลสัมฤทธิ์และขาดประสิทธิภาพ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมกำลังคิดสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์แนวคิดคือเมื่อมีผู้พ้นโทษแล้วแต่ไม่มีผู้กล้ารับผู้พ้นโทษเข้าทำงานกระทรวงยุติธรรมได้ขอให้กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงเรื่องลดหย่อนภาษีให้บริษัทห้างร้านที่รับผู้พ้นโทษเข้าทำงานโดยลดหย่อน2เท่าซึ่งกระทรวงการคลังคลังให้การสนับสนุน2ปีลดหย่อน2เท่าออกมาแล้วตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อเป็นการแก้ปัญหาโดยก่อนพ้นโทษนักโทษต้องมีอาชีพมีทักษะและเนื่องจากตอนนี้เมื่อพ้นโทษออกมาต้องกักตัวเพราะโควิด14วันเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวกระทรวงไหนมีที่ดินเยอะๆขอให้สนับสนุนกระทรวงยุติธรรมในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวได้และจะให้เข้าไปอยู่ในแผนสิทธิมนุษยชนด้วย

“ผมได้คุยกับปลัดเราไม่ตั้งใจที่จะสร้างคุกเพิ่มถ้าเราจะสร้างจะเป็นลักษณะเรือนจำเบาเพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพไปในตัวและมีค่าก่อสร้างถูกสิ่งต่างๆเหล่านี้เราพยายามดูข้อกฎหมายที่ยังไม่สมดุลกับจำนวนผู้ต้องขังและงานในประเทศตอนนี้แรงงานในประเทศขาดเนื่องจากแรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศกันเยอะและตอนนี้สิทธิมนุษยชนผู้ต้องขังควรจะมีที่นอนกว้างยาวเท่าไหร่ที่ตั้งไว้ตอนนี้1.2ตร.ม.ต่อคนก็เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วกว่า90เปอร์เซ็นต์”นายสมศักดิ์กล่าว