ทุนไหลเข้าหนุนบาทแข็ง ‘ดัชนีหุ้นไทย’ ขึ้นต่อ

ทุนไหลเข้าหนุนบาทแข็ง ‘ดัชนีหุ้นไทย’ ขึ้นต่อ

สัปดาห์นี้เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการได้มากขึ้น

 โดยปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งสหรัฐกับจีนที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มการระบาดของโควิด-19 หลังการผ่อนคลายล็อกดาวน์ 

สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.30-31.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยยังต้องจับตาประเด็นความขัดแย้งสหรัฐกับจีนมากขึ้น ขณะเดียวกันในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 9-10 มิ.ย.อีกด้วย

   

 ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 มิ.ย.2563) ปิดการซื้อขายที่ 1,435.70 จุด เพิ่มขึ้น 24.69 จุด หรือ 1.75%  มูลค่าการซื้อขาย 120,331.40 ล้านบาท  “บล.ทิสโก้” ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าประเมินว่าดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นแดนบวกต่อได้ เนื่องจากมีแรงหนุนที่สำคัญจากสภาพคล่องที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยเฉพาะเม็ดเงินจากฟันด์โฟลว์ต่างชาติ ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกจากการคลายตัวของภาวะเศรษฐกิจ หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังแรงขายล็อกกำไร เพราะที่ผ่านมาตลาดปรับตัวขึ้นมาแรงมากแล้ว โดยประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,400-1,480 จุด

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,709.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 25,500 บาทต่อบาททองคำ ด้าน “วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุ เบื้องต้นแนะนำติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ โดยในระยะสั้นแนะนํารอจังหวะเข้าซื้อหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,704-1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากดีดตัวขึ้นไม่ผ่าน 1,722-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุด 1,687 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุน เพราะเมื่อราคาทองคำหลุดระดับดังกล่าวอาจมีการปรับตัวลงต่อ โดยประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์