'เกษตร' ชงของบ พ.ร.ก.กู้เงิน พัฒนาแห่งน้ำ 3 หมื่นล้าน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้ากระทรวงเกษตรฯจะเสนอโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาในโครงการฟื้นฟูภาคเกษตรจากการระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้วงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งแผนฟื้นฟูแหล่งน้ำที่จะดำเนินการเร่งด่วน หากได้รับความเห็นชอบจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่ออนุมัติแผนดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ โครงการขนาดเล็กของกรมชลจะเน้นโครงการขนาดเล็กมีการขุดลอกคูคลอง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำ และในแต่ละโครงการจะมีการจ้างงาน หลังจากผลกระทบโควิด-19 

ส่งผลให้มีคนตกงานและกลับคืนสู่ภาคเกษตรมากขึ้น เมื่อมีการขุดลอกคูคลอง ก็จะมีการตรวจสอบว่า โครงการสามารถจ้างแรงงานเข้าไปดำเนินการแทนเครื่องจักรได้ ก็จะใช้คนดำเนินการ โดยแต่ละโครงการที่เสนอมา ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ส่งมาจากชุมชน เป็นโครงการที่แต่ละชุมชนต้องการ ใช้ประโยชน์ และสามารถจ้างงานได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• 8 ขั้นตอน 'ธ.ก.ส.' จ่าย 'เงินเยียวยาเกษตรกร' กลุ่ม 3 ทั้ง 1.3 แสนราย ได้เงินเมื่อไหร่
• 'ธ.ก.ส.' ปล่อย 'สินเชื่อฉุกเฉิน' แบบ new normal ไม่ต้องไปธนาคาร แต่ทำผ่านแอพพลิเคชั่นได้ง่ายๆ
• 'เกษตรดิจิทัล' ตัวช่วย 'เกษตรกร' ตรวจสอบสิทธิ์ เงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท
• สรุปทุกมาตรการ 'คลัง' เคลียร์ชัด! 'เงินเยียวยา' ได้ 3 เดือนหรือ 6 เดือน?
• 'เงินฝาก' ปลอดภาษี ดอกเบี้ยสูงสุด 10 อันดับ ทางเลือกเพิ่มผลตอบแทนความเสี่ยงต่ำ

“จะพยายามให้มีการจ้างแรงงาน ที่ตกงานจากผลกระทบโควิด จากงบประมาณ 2563 กรมชลประทานสามารถจ้างงานได้แล้วเกือบ 5 หมื่นคน และใน 3 หมื่นล้านบาทของโครงการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ขุดลอก คูคลองนี้น่าจะเพิ่มจำนวนการจ้างงานได้ไม่น้อย”

รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตการเกษตรมูลค่า 33,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างด้านแหล่งน้ำชลประทาน 27,917ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 19 แห่ง 14,820 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำฯ249 แห่ง 4,676 ล้านบาท

โครงการซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลประทานฯ 575 แห่ง 1,148ล้านบาท, โครงการปรับปรุงและติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน 41 แห่ง 319 ล้านบาท ,โครงการจัดหาเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง  6,952ล้านบาท และ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำระดับชุมชน2,250ล้านบาท