ชะลอความแรง

ชะลอความแรง

คาดว่าดัชนีจะมีการสลับอ่อนตัวลงตามสัญญาณเทคนิคภาวะ Overbought รวมถึง Valuation ที่ค่อนข้างตึงตัวของดัชนี

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index พุ่งแรงกว่า 37 จุด (+2.68%) ปิดที่ระดับ 1,411 จุด สูงสุดในรอบ 3 เดือน มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1.2 แสนล้านบาท ตามทิศทาง Fund flow ต่างชาติที่ไหลเข้าส่งผลให้หุ้น Big Cap ปรับขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารซึ่งราคายัง Underperform ตลาดมากที่สุดในปีนี้ อาทิ KBANK , SCB  และ BBL  นอกจากนี้ยังได้แรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วยหนุนดัชนีปรับตัวขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,470 ล้านบาท  , ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 7,539 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX SET50  6,347 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,420 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตาม sentiment เชิงบวก Fund flow ที่ไหลเข้าจากความคาดหวังภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังหลายประเทศผ่อนคลาย Lockdown ประกอบกับคาดการณ์ว่าตลาดแรงงานสหรัฐได้ผ่านพ้นภาวะเลวร้ายที่สุดไปแล้วหลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นต่ำกว่า 2 ล้านรายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการออกมาตรการเพิ่มเติมของ ECB ที่เพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรตามโครงการฉุกเฉินอีก 6 แสนล้านยูโรเพื่อรองรับผลกระทบไวรัส Covid-19 อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีการสลับอ่อนตัวลงตามสัญญาณเทคนิคภาวะ Overbought รวมถึง Valuation ที่ค่อนข้างตึงตัวของดัชนี

** ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปคพลัสในสัปดาห์นี้เพื่อขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • MINT, CENTEL, ERW, AOT Lockdown
  • AMATA, WHA EEC 2  1
  • กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IRPC, SPRC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (CKP, TASCO, STA, RS)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTGC (ปิด 47.75 ซื้อ/เป้า 50) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, คลาย lockdown ช่วยเพิ่มดีมานด์ทั้งฝั่งปิโตรฯและโรงกลั่น และยังได้เปรียบต้นทุนเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่าคู่แข่งที่ใช้นาฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันทันที
  • SPA (ปิด 7.55 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 8.8) ทยอยสะสม SPA ได้ประโยชน์โดยตรงจากการที่ภาครัฐอนุญาติให้ร้านนวด และ สปา เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการได้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นน้อยหรือยัง Laggard เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม และ สายการบิน

บทวิเคราะห์วันนี้

Energy sector (Top pick: TOP, PTTGC และ IVL)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% ตามเดิม แต่เพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์อีก 6 แสนล้านยูโร มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 5 แสนล้านยูโร: วานนี้ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับ -0.50% ตามเดิม อย่างไรก็ตาม ECB มีมติเพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินตามโครงการลดผลกระทบจากโรคระบาด (PEPP) อีก 6 แสนล้านยูโร เป็น 1.35 ล้านล้านยูโร (เดิมโครงการ PEPP มีวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ที่ 7.5 แสนล้านยูโร) ซึ่งการเพิ่มวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ตามโครงการ PEPP ในครั้งนี้สูงกว่าที่ตลาดส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 5 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ ECB ยังเห็นชอบให้ยายเวลาในการซื้อสินทรัพย์ตามโครงการ PEPP ออกไปจนถึงเดือน มิ.ย.ปีหน้า จากเดิมจะสิ้นสุดโครงการในปลายปีนี้
  • (+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.2 จาก 47.2 ในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน: ม.หอการค้ารายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.2 จาก 47.2 ในเดือน เม.ย. นับเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 15 เดือน เป็นผลบวกหลังจากภาครัฐทยอยปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจในระยะที่ 1-3 และยังมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นที่กลับมาฟื้นตัวจะทำให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเป็นบวกต่อยอดขายและ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีก อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นที่ระดับดังกล่าวยังเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนถึงจะกลับสู่ระดับปรกติ
  • (+) ปัจจัยที่ต้องติดตาม – คืนนี้สหรัฐรายงานตัวเลข Nonfarm payrolls สัปดาห์หน้าติดตาม Fed meeting และ ศบค.พิจารณาปลดล็อกกิจกรรมเฟส 4: วันนี้ตลาดคาดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) ของสหรัฐจะลดลงอีก 8 ล้านตำแหน่งในเดือน พ.ค. แต่น้อยกว่าเดือน เม.ย.ที่ลดลง 20.5 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 19.8% จาก 14.7% ในเดือน เม.ย. ส่วนสัปดาห์หน้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed meeting) คาดเฟดจะยังไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบโดยจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0 -0.25% ตามเดิม และติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดว่าจะมีมุมต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในทิศทางใหน ( L shape, U Shape หรือ V shape) เร็วกว่าหรือช้ากว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ปัจจัยในบ้านเราติดตาม ศบค.เตรียมพิจารณาปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจในระยะที่ 4 คาด กลุ่มงานอีเวนต์ งานแสดงคอนเสิร์ต โรงเรียนและสถาบันการศึกษารวมไปถึง โรงยิม และสถานบันเทิง สามารถกลับมาดำเนินการได้