STC - ซื้อ

STC - ซื้อ

กำไร 1Q63 +8%QoQ แต่–5%YoY พร้อมคงกำไรปี 63 ตามเดิม

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไร 1Q63 ที่ 8.4 ลบ. +8%QoQ แต่ -5%YoY : ถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นของทั้งธุรกิจคอนกรีตสำเร็จรูปและธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จที่ลดลงจาก 1Q62 ที่ 33.2% และ 30.6% สู่ 31.2% และ 25.7% ตามลำดับจากค่าเสื่อมราคาโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 1.6 ลบ. สู่ 12.8 ลบ.เพิ่มขึ้น 14%YoY จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากได้งานที่ขนส่งไกลขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจาก 3.1 ลบ.จากค่าใช้จ่ายพนักงานและเงินโบนัส อย่างไรก็ตามรายได้ปรับตัวขึ้นสู่ 130 ลบ. +21%YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้คอนกรีตสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นตามการก่อสร้างในเมืองพัทยา และโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 1Q63 ที่ 8.4 ลบ. +8%QoQ แต่ -5%YoY และคิดเป็น 20% ของประมาณการเรา
  • คาดผลประกอบการ 2Q63 เติบโต YoY แต่อาจอ่อนตัว QoQ : คาดรายได้ 2Q63 อ่อนตัว QoQ จากระดับ 130 ลบ. ใน 1Q63 เนื่องจากจังหวัดชลบุรีมีมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ 2 เม.ย. 63 – 5 พ.ค. 63 ส่งผลให้การก่อสร้างถูกลดเวลาการก่อสร้างลงอีกทั้งใช้เวลาระหว่างเดินทางไปไซด์งานเพิ่มขึ้นจากการคัดกรองโรค COVID-19 แต่ได้รับชดเชยจากวันทำงานเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY เนื่องจากโรงงานใช้กำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังผู้บริหารถึงผลกระทบจาก COVID-19 อยู่ในวงจำกัดเนื่องจากสัญญาการก่อสร้างของภาครัฐและภาคเอกชนไม่มีการเลื่อนวันส่งมอบทำให้ต้องดำเนินการก่อสร้างตามปกติซึ่งหนุนยอดขายคอนกรีตสำเร็จรูปและคอนกรีตผสมเสร็จของบริษัท
  • 2H63 สดใสจากงานประมูลเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย : 2H63 เราคาดว่าจะมีงานประมูลภาครัฐและภาคเอกชนออกมาเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ซึ่งเราคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ 1) ระบบสาธารณูปโภคในภาคอีสานราว 60-80 ลบ. และ 2) งานระบบสาธารณูปโภคจากถนนสุขุมวิทไปยังมาบตาพุดอีก 30-90 ลบ. นอกจากนี้มีความคืบหน้าเรื่องสนามบินอู่ตะเภา รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ที่ได้ผู้ชนะการประมูล เป็นโอกาสของบริษัทเพิ่มเติมในการได้งานระบบสาธารณูปโภค
  • คงประมาณการกำไรปี 2563 ตามเดิมจาก COVID-19 กระทบเล็กน้อย : ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 2563 อยู่ที่ 39.7 ล้านบาท +54%YoY โดยในปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้ราว 462 ล้านบาท +10% YoY และมีกำไร 39.7 ล้านบาทเติบโต 54%YoY เนื่องจากคาดว่างานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 63 ตามที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ระดับ 32.5% ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 21.4%
  • คงคำแนะนำ ซื้อที่ราคาเหมาะสมสู่ 0.77 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี + 1D. ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกัน DCON และ SCP ได้เท่ากับ 10.8 เท่า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2563 ที่ 0.07 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 0.77 บาท ซึ่งยังมีอัพไซด์จากราคาล่าสุด จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ

ความเสี่ยง : i) มีผู้ประกอบการผลิตผสมเสร็จหลายรายทำให้เกิดการแข่งขันสูง

               ii) การจัดส่งสินค้าที่ล่าช้า

               iii)  การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบายการลงทุนของรัฐบาล

               iv) ไม่สามารถรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า

                v)   ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ