เวทีประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสามทำแผนลดผลกระทบโควิด-19

รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ประชุมผ่านระบบทางไกล ผนึกกำลัง ฟื้นเศรษฐกิจในภูมิภาคจากพิษโควิด-19พร้อมดันลงนามอาร์เซ็ปให้ได้ปีนี้

นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโควิด–19 ผ่านระบบทางไกล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ว่า  ที่ประชุมได้ร่วมกันออกถ้อยแถลงว่าด้วยการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 โดยเน้น 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่  1.รักษาตลาดที่เปิดกว้างสำหรับการค้าและการลงทุน เพื่อเสริมสร้างการฟื้นตัวและความยั่งยืนของห่วงโซ่การผลิตในระดับภูมิภาค .2. แก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีที่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้ายของสินค้าและบริการ .3 อำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายของนักธุรกิจในภูมิภาคตามนโยบายของแต่ละประเทศโดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุข 4. สนับสนุนภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ MSME ในการใช้เทคโนโลยีและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และ 5. ฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านเวทีอาร์เซ็ป โดยผลักดันลงนามให้แล้วเสร็จภายในปีนี้

 

นายสรรเสริญ กล่าวว่า  ถ้อยแถลงร่วมดังกล่าว เป็นการวางแนวทางเพื่อลดผลกระทบ กระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และรักษาความเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค รวมถึงส่งเสริมมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยคำนึงถึงมาตรฐานและข้อเสนอแนะขององค์การศุลกากรโลกและพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก อีกทั้งยังใช้ประโยชน์จากองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสามเพื่อช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคในช่วงภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสามยังมอบให้เจ้าหน้าที่ร่วมมือกันริเริ่มโครงการที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด – 19 คลี่คลายลงอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างเสถียรภาพต่อการผลิตและห่วงโซ่การผลิตของสินค้าและบริการ ในภูมิภาคนี้ พร้อมเน้นย้ำถึงคำมั่นที่จะลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป ในปีนี้

 

ทั้งนี้ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นคู่ค้าสำคัญของอาเซียน ในปี 2562 การค้าระหว่างอาเซียนกับทั้งสามประเทศมีมูลค่า 872,325 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 32 % ของมูลค่าการค้าอาเซียนกับทั้งโลก โดยอาเซียนส่งออกไปยังสามประเทศ มูลค่า 367,523 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกหลัก อาทิ เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมัน พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก ยางพาราและของที่ทำด้วยยางพารา เครื่องมือและอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หม้อไอน้ำ และเครื่องนุ่งห่ม และอาเซียนนำเข้าจากสามประเทศ มูลค่า 504,802 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าหลัก อาทิ เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หม้อไอน้ำ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน เครื่องอัดเทป โทรทัศน์ น้ำมัน พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์