เลือก 'โค้ช' อย่างไร ให้ถูกใจและได้ผลดี

เลือก 'โค้ช' อย่างไร ให้ถูกใจและได้ผลดี

คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนบนโลกใบนี้ จะมีโค้ชเป็นเพื่อนชวนคิด และเป็นลมใต้ปีกที่คอยผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากวันนี้หลายคนมองหาโค้ชที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาและผลักดันตัวเรา ข้อควรพิจารณาในการเลือกควรเป็นอย่างไร? ติดตามได้อ่านได้ที่บทความนี้

ทุกวันนี้มีคนอุปโลกน์ตัวเองเป็น “โค้ช” กันมากมาย จนสร้างความสับสนงงงวยให้กับหลายคน

โดยส่วนตัว ใครเรียกตัวเองว่า “โค้ช” ผมรู้สึกเลี่ยนๆ ยังไงบอกไม่ถูก

จริงอยู่ แม้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จหลายคนบนโลกใบนี้ จะมีโค้ชเป็น “เพื่อนชวนคิด” และเป็นลมใต้ปีก (Wind beneath my wings) ที่คอยผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือไปได้ไกลกว่าที่คิด ช่วยปลดล็อกความเชื่อที่ติดกรอบ และกระตุ้นให้เกิดไอเดียหรือมุมมองใหม่ๆ

แต่การเลือกโค้ชที่ดี เหมาะสม มีคุณภาพ และถูกใจ เป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการโค้ช ผมมีเทคนิคการเลือกโค้ชมาฝาก

1.ไม่ต้องสนใจว่าโค้ชมีประสบการณ์ในการทำงานด้านใดมา (Working Experience) เพราะเขาไม่ได้มา “ช่วยคิด” แต่มา “ชวนคิด” จงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการโค้ช (Coaching Experience) ว่าเขาเคยโค้ชใคร คนเหล่านั้นอยู่ในระดับหรือตำแหน่งใด และโค้ชในเรื่องอะไร

2.ไม่ต้องสนใจว่าโค้ชจบการศึกษาด้านการโค้ชมาจากไหน หรือมีสถาบันใดรับรองความเป็นโค้ชบ้าง แต่ให้สนใจกระบวนการในการโค้ช (Coaching Process) ของเขาว่ามีสเต็ปขั้นตอนอย่างไร ฟังดูแล้วเข้าท่าไหม และที่สำคัญเหมาะกับบริบทการทำงานของเราหรือไม่

3.โค้ชมีแหล่งความรู้อื่นๆ นอกเหนือจากการทำอาชีพโค้ชเพียงอย่างเดียวหรือไม่ เช่น เขียนหนังสือรึเปล่า มีเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นของตนเองไหม มีแฟนคลับหรือ ผู้ติดตามเยอะขนาดไหน มีช่องยูทูบหรือเฟซบุ๊คแฟนเพจหรือไม่ เป็นต้น หากเขาเป็นกูรูด้านนั้นจริงๆ ก็ควรมีแหล่งความรู้อื่นๆ ให้ค้นคว้าเพิ่มเติม และควรมีผู้ติดตามผลงานของเขาระดับหนึ่ง

คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนบนโลกใบนี้ จะมีโค้ชเป็นเพื่อนชวนคิด และเป็นลมใต้ปีก

4.มีคนที่รู้จักหรือคุ้นชินเคยใช้บริหารของโค้ชท่านนี้บ้างหรือไม่ ถามหาบุคคลอ้างอิง (Reference Person) จากโค้ช แล้วลองเช็คข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) ดู ในแวดวงการโค้ช คำแนะนำแบบปากต่อปาก (Words of Mouth) น่าเชื่อถือที่สุด

5.ศรศิลป์ต้องกินกัน-คุณกับโค้ช รู้สึกถูกโฉลกกันไหม ก่อนจะเลือกโค้ชต้องขอคุยก่อนเสมอ ลองดูว่านั่งคุยกันสัก 15-20 นาที รู้สึกยังไง สะดวกใจที่จะคุยต่อหรือไม่ รู้สึกไว้ใจที่จะแชร์ความรู้สึกหรือเรื่องราวลึกๆ รึเปล่า ถ้าไม่ใช่ อย่าเลือก!

ช่วงเวลาที่ทุกอย่างหยุดชะงักเช่นตอนนี้ การได้มีโอกาสกลับมาดูแล พัฒนา และปรับปรุงตัวเอง เป็นสิ่งที่เหมาะสม และน่าทำยิ่งนัก อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปกับการนั่งจับเจ่า อ่านข่าว และจมปลักอยู่กับความกังวลเรื่องโควิดมากเกินไป เอาเวลามาพัฒนาตนเองดีกว่า

เลือกโค้ชสักคน เรียนรู้จากเขา เพื่อความสำเร็จของเรา