พรีเมี่ยมเอาท์เล็ตเปิดศึกชิงลูกค้า สยามฯ ปักหมุดเดสทิเนชั่นใหม่

พรีเมี่ยมเอาท์เล็ตเปิดศึกชิงลูกค้า สยามฯ ปักหมุดเดสทิเนชั่นใหม่

สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก (Siam Premium Outlets Bangkok) ได้ฤกษ์วันที่ 19 มิ.ย.นี้ พร้อมเปิดประตูให้บริการอย่างเป็นทางการ ปักหมุดเดสทิเนชั่นแห่งใหม่! ที่จะมาสร้างประสบการณ์ชอปปิง พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ในประเทศไทย 

ประเดิมสร้างสีสันให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีกภายใต้การคุกคามของไวรัสโควิดที่มาหยุดกิจกรรมทางธุรกิจและเศรษฐกิจนับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มขยายความรุนแรงเดือน ก.พ. นำสู่การปิดเมือง! ล่าสุด สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก (Siam Premium Outlets Bangkok) ได้ฤกษ์วันที่ 19 มิ.ย.นี้ พร้อมเปิดประตูให้บริการอย่างเป็นทางการ ปักหมุดเดสทิเนชั่นแห่งใหม่! ที่จะมาสร้างประสบการณ์ชอปปิง พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ในประเทศไทย 

นับถอยหลังดีเดย์ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก เป็นทั้งการประกาศเปิดศึกค้าปลีกในประเภทเอาท์เล็ต! ของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ สยามพิวรรธน์ และ เซ็นทรัลและอีกนัยหนึ่งเป็นการร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ พร้อมยกระดับมหานครกรุงเทพฯ ก้าวสู่ “เวิลด์คลาส ชอปปิง เดสทิเนชั่น” แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงชอปปิง ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ทั้ง 2 บิ๊กโปรเจกเลือกทำเลยุทธศาสตร์ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ปราการด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นไปตามเมกะเทรนด์การพัฒนาเมืองในเขตสนามบินทั่วโลก หรือ แอโรโทรโพลิส (Aerotropolis) ซึ่งมีการพลิกโฉมพื้นที่โดยรอบด้วยการเติมเต็มความครบครันของแหล่งชอปปิง ศูนย์การค้า โรงแรม เอาท์เล็ตมอลล์ ร้านอาหาร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ แม้กระทั่ง เวิร์คกิ้งฮับ

ไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด กล่าวว่า สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก ตั้งอยู่บริเวณทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 เส้นทางสัญจรหลักเชื่อมกรุงเทพฯ สู่เมืองจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวภาคตะวันออก สนามบินสุวรรณภูมิ และย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ โดยมีแผนร่วมกับพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียงเพื่อสร้างจุดหมายปลายทางของการชอปปิงและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวไทยและชาวต่างชาติ 

"การเปิดโครงการครั้งนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ก่อเกิดการจ้างงานกว่า 1,000 อัตรา ที่มาพร้อมการนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การมาซื้อสินค้า ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายที่จะสร้างสรรค์ให้ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ท่ามกลางบรรยากาศการชอปปิงที่ผ่อนคลาย"

สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต แบงค์คอก สินค้าลดสูงสุดกว่า 70% โดดเด่นด้วยสินค้าแบรนด์ลักชัวรีระดับเวิลด์คลาส อินเตอร์-เนชั่นแนล และไทยแบรนด์ยอดนิยมทั้งแฟชั่น ไลฟ์ไตล์ สปอร์ต เครื่องหนัง ที่จะเปิดตัวในคอนเซปต์เอาท์เล็ตครั้งแรกในประเทศไทย โดยลักชัวรีแบรนด์ เช่น Burberry, Balenciaga, Bally, Breitling, Coach, Furla, Hugo Boss, kate spade NEW YORK, Montblanc, adidas  รวมถึง Nike พรีเมี่ยม รีเทล สโตร์ ขนาดใหญ่กว่า 1,300 ตร.ม. สไตล์การตกแต่งร้านที่ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากศิลปะไทย พร้อมแบรนด์ไทยอย่าง EVEANDBOY และ Jim Thompson

การร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และไซม่อน ยักษ์ใหญ่ของโลกเจ้าของโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการชอปปิง กินดื่ม บันเทิง และ มิกซ์ยูส การลงทุนครั้งนับเป็นก้าวแรก!! ของไซม่อนในเมืองไทย และเป็นประเทศที่ 4 ในเอเชีย นับเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งทุนและโนว์ฮาว! ในการเปิดเกมรุกธุรกิจพรีเมี่ยมเอาท์เล็ตของสยามพิวรรธน์!!

ไซม่อน เป็นเจ้าของพรีเมี่ยมเอาท์เล็ตกว่า 96 แห่งทั่วโลก ที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมสูง เช่น Woodbury Common Premium Outlets (New York), Desert Hills Premium Outlets (Palm Springs), Las Vegas North Premium Outlets, Gotemba Premium Outlets(Tokyo), Yeoju Premium Outlets (Seoul) และ Johor Premium Outlets(Malaysia)

ทางด้านคู่แข่งอย่าง  กลุ่มเซ็นทรัล” เปิดบริการ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต" ในปีที่ผ่านมา คอนเซปต์ “Bangkok Luxury Outlet” โครงการตั้งอยู่บนเส้นทางหลักเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ (ฝั่งถนนบางนา-ตราด) ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างประสบการณ์ชอปปิงลักชัวรีเอาท์เล็ตที่เป็น Thailand’s First International Luxury Outlet เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว Young Affluent จากทั่วโลก อาทิ ชาวจีน รัสเซีย รวมทั้งลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูง กลุ่มคนที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมทั่วประเทศที่ต้องการช้อปแบรนด์เนมในราคาคุ้มค่า

เป้าหมายของเซ็นทรัล วิลเลจ ที่มุ่งสู่ เวิลด์คลาส ลักชัวรีเอาท์เล็ตเบอร์หนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้! จึงได้ดึงพันธมิตรระดับโลก มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของญี่ปุ่น เข้ามาถือหุ้นใน บริษัท ซีพีเอ็น วิลเลจ ในเฟสแรก คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท หรือสัดส่วนราว  30% (70% เป็นของซีพีเอ็น) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัลวิลเลจ ทั้งด้านโนว์ฮาวและประสบการณ์ของมิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในการทำเอาท์เล็ตที่ประเทศญี่ปุ่น อาทิ โกเทมบะ ริงกุ ชิซุย มาพัฒนาการบริการ รวมไปถึงการเพิ่มเอกลักษณ์ของเซ็นทรัล วิลเลจ ให้เป็น “World-class Outlet with Thai-Japanese Hospitality”  พร้อมดึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รวมถึงแบรนด์ญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมของคนไทยเข้ามาเสริมทัพ ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยมาใช้บริการ

ขณะที่ตลาดยังอยู่ในภาวะไม่ปกติ! จากวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลูกค้าเป้าหมายหลักของพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต! เบรกการเดินทาง ผู้บริโภคชาวไทยระมัดระวังการใช้จ่าย 2 ยักษ์ใหญ่จะปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างไรต้องติดตาม?