‘2 หุ้นโรงไฟฟ้า’ มั่นใจผลงานปีนี้เด่น

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2563  เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2562 อยู่ที่ 2,580.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในประเทศสปป.ลาวรวมกำลังผลิต 114 เมกะวัตต์ (MW) ได้แก่ โรงไฟฟ้าเขื่อน Nam San 3A ซึ่งปีนี้จะรับรู้รายได้เต็ม และเขื่อน Nam San 3B ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วง ก.พ.ที่ผ่านมา

นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า  บริษัทได้ปรับลดเงินลงทุนในปีนี้เหลือ 8,000-15,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ราว 20,000 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลกระทบให้การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าบางส่วนต้องชะลอออกไป เพราะการขนส่งสินค้าจากประเทศจีนที่ล่าช้า อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเป้างบลงทุน 5 ปีข้างหน้าไว้ที่ระดับ 45,000 ล้านบาท โดยจะเลื่อนการใช้เงินลงทุนออกไปในปี 2564 มากขึ้น พร้อมคาดว่าจะช่วยหนุนให้ EBITDA ของบริษัทจะเติบโตสูงถึง 75% หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 15%

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ระดับ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปี 2562 ที่มีรายได้ 10,905 ล้านบาท 

โดยบริษัทยังมีแผนเข้าร่วมการประมูลโรงไฟฟ้าอีก 5 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) จำนวน 4 โครงการ และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) จำนวน 1 โครงการ  บริษัทคาดหวังจะชนะการประมูลประมาณ 4 โครงการ  โดยจะเริ่มทยอย COD ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป   ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 440 MW

สำหรับปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 47,000 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า และติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2563 รวมถึงใช้รองรับโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ที่คาดว่าปีนี้ปริมาณการใช้จะเพิ่มขึ้น 20% นอกจากนี้บริษัทเตรียมประชุมบอร์ดพิจารณาจ่ายเงินปันผลในเดือนก.ค.นี้