พายุฝนถล่ม 10 จังหวัด เดือดร้อน 478 หลังคาเรือน เร่งช่วยผู้ประสบภัย

พายุฝนถล่ม 10 จังหวัด เดือดร้อน 478 หลังคาเรือน เร่งช่วยผู้ประสบภัย

ปภ. รายงานเกิดวาตภัย 10 จังหวัด เดือดร้อน 478 หลังคาเรือน คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย

4 มิ.ย.63 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 1 มิ.ย.63 ถึงปัจจุบัน (4 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 10 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว รวม 25 อำเภอ 47 ตำบล 104 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 478 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน (4 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด รวม 25 อำเภอ 47 ตำบล 104 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 478 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว

ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป