'พาณิชย์' เผยไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค หลังเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน

'พาณิชย์' เผยไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค หลังเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน

"พาณิชย์" เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ลดลง 3.44% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี 10 เดือน สาเหตุสำคัญราคาจากน้ำมันโควิด-19 มาตรการช่วยเหลือภาครัฐทั้งค่าน้ำ ค่าไฟและอาหารสด ทำไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืด

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรือ เงินเฟ้อเดือน เดือนพ.ค. ลดลง 3.44% เป็นการหดตัวแรงที่สุดในรอบ 10 ปี 10 เดือนสาเหตุสำคัญมาจากการระบาดของโควิด -19 และราคาพลังงานที่ลดลง

รวมถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐทั้งการลดค่าไฟฟ้า ค่าประปา อาหารสด โดยเฉพาะผักสดและราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ

"ขณะนี้เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน ทำให้ไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค เนื่องจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้ติดลบมาก ปีนี้เงินเฟ้อของไทยจะติดลบ แต่ติดลบเท่าไร ขอดูไตรมาส 2ก่อน”

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ส่งผลให้ภาคการผลิตและบริการ ทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว ถึงแม้ว่าจะมีหลายประเทศรวมถึงไทยได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บ้างแล้ว แต่ยังคงจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในบางกิจกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าและบริการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าว นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับศักยภาพการผลิตและความสามารถด้านการแข่งขันของไทยยังอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อกลับเข้าสู่ทิศทางปกติได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ภัยแล้งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อผลผลิตและราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญต่อไป

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ นอกเหนือจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังมาจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกที่ยังรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอุปทานส่วนเกินของสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นผลจากการลดลงของ อุปสงค์และสงครามการค้า ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรแม้ยังมีปัจจัยบวกจากภัยแล้งและอุปสงค์ในประเทศ ที่เริ่มดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ

แต่การลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นปัจจัยทอนที่น่าจะส่งผลต่ออุปสงค์ในภาคการผลิตและบริการอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ดังนั้น เงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มที่จะยังหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อ ทั้งปี 2563 จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างร้อยละ (-1.0) ถึง (-0.2) (ค่ากลางอยู่ที่ -0.6)