โควิดฉุดราคาอสังหาฯ ไตรมาสแรกปีนี้รูด9%

โควิดฉุดราคาอสังหาฯ  ไตรมาสแรกปีนี้รูด9%

“ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” ชี้โควิด-19 ป่วนตลาด ฉุดราคาอสังหาฯไตรมาสแรก รูด 9% ลดลงเป็นไตรมาสที่ 5 คอนโด - ทาวน์เฮ้าส์ร่วง สวนทางราคาบ้านเดี่ยวขึ้น 2% ระบุเป็นปีแห่งการระบายสต็อก ปรับตัวรับนิวนอร์มอล ขณะทำเลป้อมปราบศัตรูพ่ายราคาพุ่ง

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 เผชิญกับปัจจัยที่ท้าทายทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และการระบาดของโควิด-19 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อและผู้ประกอบการอสังหาฯ ทำให้ไตรมาสแรกปี 2563 ตลาดอสังหาฯชะลอตัวทั้งราคา และปริมาณที่อยู่อาศัย (อุปทาน)

โดยรายงานของ DDproperty Thailand Property Market Index ระบุว่า ดัชนีราคาอสังหาฯในปี 2563 มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากปี 2562 จากปัจจัยสำคัญคือการระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาฯชะลอตัว ทั้งในแง่ของดัชนีราคา และดัชนีอุปทาน โดยดัชนีราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 นับจากช่วงไตรมาส 1 ปี2562 ถึงไตรมาสแรกของปี 2563 ลดลง 9%

สำหรับราคาคอนโดไตรมาสแรกปี 2563 ลดลง 6%ในรอบ1ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนสนใจเข้ามาซื้อเพื่อขยายพอร์ตการลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนทาวน์เฮ้าส์ปรับราคาลดลง 2% ขณะที่บ้านเดี่ยวปรับราคาเพิ่มขึ้น2%เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยจริงและมีกำลังซื้อ โดยระดับราคาต่ำกว่า 3.5 ล้านบาทปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 3% เทียบกับไตรมาส4/2562

ส่วนระดับราคาที่ยังเติบโตดีเป็นคอนโด ราคา8-15 ล้านบาท ราคาเพิ่มขึ้น 5% และระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ราคาเพิ่มขึ้น15% ในรอบ2 ปีหากมองในระยะยาวจะพบว่า บ้านและคอนโดระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปดัชนีราคาเติบขึ้นจากไตรมาส 4 /59 ถึง 35% ราคาบ้านต่ำกว่า 3.5 ล้านบาทปรับตัว ลดลงถึง8%

ทั้งนี้ ดัชนีราคาที่ปรับลดลงจะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์ ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว เป็นที่อยู่อาศัยประเภทเดียวที่ระดับราคาเพิ่มขึ้นเพราะเจาะกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง

“คาดว่าไตรมาสสอง ตลาดอสังหาฯจะยังคงชะลอการเปิดตัวโครงการ ขณะเดียวกันเป็นนาทีทองของผู้ซื้อที่มีความพร้อม (เรียลดีมานด์) เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯแข่งขันกันออกแคมเปญโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ระบายสินค้าคงค้างโดยเฉพาะคอนโดเพื่อจูงใจผู้ซื้อ ทำให้ราคาอสังหาฯปรับตัวลดลง”

ส่วนแนวโน้มอุปทานอสังหาฯในปี2563 ปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบโควิด-19 ทำให้ชะลอโครงการใหม่หันมาระบายสต็อก โดยเฉพาะคอนโด ซึ่งคอนโดยังคงมีสัดส่วนของอุปทานมากที่สุดในตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯคิดเป็น88% ของจำนวนอุปทานทั้งหมด ทั้งนี้ซัพพลายคอนโดส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา3.5-8.5ล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2563 อุปทานคอนโดลดลง 10% ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคาไม่เกิน3.5 ล้านบาท อุปทานทาวน์เฮ้าส์ ลดลง4% บ้านเดี่ยวลดลง3% นับเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ2ปีของทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว

“ปีนี้ถือเป็นปีของการระบายสต็อกตลาดอสังหาฯ เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ราคาและอุปทานลดลงและเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของตลาดอสังหาฯที่มีผลต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาด โดยกลยุทธ์ราคาเป็นตัวเร่งในการตัดสินใจได้มากที่สุด ”

นางกมลภัทร ยังระบุว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เกิดสภาวะปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดการแพร่เชื้อ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารและอยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อเอื้อกับพฤติกรรมผู้บริโภคทำงานที่บ้าน(Work From Home) เพราะต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้โครงการแนวราบได้รับนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบอสังหาฯหลายรายชะลอโครงการแนวสูงออกไปหันมาทำแนวราบ และไม่จำเป็นต้องเป็นทำเลในศูนย์กลางเมืองแค่ให้ใกล้รถไฟฟ้า สามารถเดินทางได้สะดวก

สำหรับ 5 ทำเลที่มีดัชนีราคาเติบโตสูงสุดในไตรมาสแรกปี 2563 ได้แก่ 1. ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราคา 219,048 บาทต่อตร.ม. เติบโต 23% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นทำเลที่หาที่อยู่อาศัยได้ยาก ใกล้บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน วัดมังกร 2.ดินแดง ราคา 113,333 บาทต่อตร.ม. เติบโต 8%จากไตรมาสก่อนหน้า 3. จตุจักร ราคา 122,286 บาทต่อตร.ม. เติบโต8%จากไตรมาสก่อนหน้า 4. บางคอแหลม ราคา 114,250 บาทต่อตร.ม. เติบโต 4%จากไตรมาสก่อนหน้า และ 5.พระโขนงราคา 115,000 บาทต่อตร.ม. เติบโต3%จากไตรมาสก่อน