'วัคซีนครอบครัว' ภูมิต้านทานทางใจ ในวิกฤติโควิด-19

'วัคซีนครอบครัว' ภูมิต้านทานทางใจ ในวิกฤติโควิด-19

กรมสุขภาพจิต เผยวิกฤติโควิด-19 ครอบครัวไทย มีความเครียดในระดับปานกลาง ส่วนใหญ่เชื่อมั่นสามารถก้าวผ่านวิกฤติได้ เดินหน้าส่งมอบ “โปรแกรมวัคซีนครอบครัว” ให้ อสม.และผู้นำชุมชน สร้างภูมิต้านทานทางใจครอบครัวไทยให้เข้มแข็ง

วันนี้ (3 มิถุนายน 2563) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่าได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยเป็นอย่างมาก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดต่อเนื่องยาวนาน การปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ซึ่งเว้นระยะห่างกันมากขึ้น การทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวบางอย่างลดน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อความสุขและความเครียดของครอบครัวไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวกลุ่มเปราะบางทางสังคม ที่ได้รับผลกระทบเร็วกว่ากลุ่มอื่น ทั้งจากปัญหาการว่างงาน ภาระหนี้สิน ภาระการดูแลสมาชิกในครอบครัว รวมถึงข้อจำกัดในการปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ ปัญหาความเครียดในครอบครัวทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะกับเด็ก สตรี คนชรา ซึ่งพบมีรายงานความรุนแรงในครอบครัวในช่วงกักตัวอยู่ในบ้านสูงขึ้นในหลายประเทศ

159116657343

จากการสำรวจความสุขของครอบครัวไทย โดยกรมสุขภาพจิต ใน 2 กลุ่ม ได้แก่ “ครอบครัวทั่วไป" ผ่านทางออนไลน์ และ “ครอบครัวเปราะบาง” จากการลงสำรวจในพื้นที่ด้วยตัวเอง ของผู้นำชุมชน หรือ อสม. ระหว่างช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่า “ด้านความสุขของครอบครัว ครอบครัวคนไทยมีความสุขในระดับมาก โดยครอบครัวทั่วไป มีความสุขมากที่สุด 48.9% มีความสุขมาก 40.2% มีความสุขน้อย 7.9% และมีความสุขน้อยมาก 3.0% ขณะที่ ครอบครัวเปราะบาง มีความสุขมากที่สุด 31% มีความสุขมาก 51.7% มีความสุขน้อย 13.8% และมีความสุขน้อยมาก 3.4%

159116657251

“ด้านความอบอุ่นใกล้ชิดของครอบครัว ส่วนใหญ่มีความอบอุ่นเท่าเดิม โดยพบว่า ครอบครัวทั่วไป มีความอบอุ่นมากขึ้น 29.5% ความอบอุ่นเท่าเดิม 50.6% ความอบอุ่นน้อยลง 16.8% และห่างเหิน 3.1% ขณะที่ ครอบครัวเปราะบาง มีความอบอุ่นมากขึ้น 10.3% ความอบอุ่นเท่าเดิม 62.1% ความอบอุ่นน้อยลง 20.7% และห่างเหิน 6.9% โดยความห่างเหินอาจเพราะสมาชิกในครอบครัว มีภาระมากขึ้น

159116657118

“ด้านความเครียดของครอบครัว” ส่วนใหญ่มีความเครียดในระดับปานกลาง โดยพบว่า ครอบครัวทั่วไป มีความเครียดสูงมาก 4.2% ความเครียดสูง 13.3% ความเครียดปานกลาง 54.1% ความเครียดต่ำ 28.3% ขณะที่ครอบครัวเปราะบาง มีความเครียดสูงมาก 6.9% ความเครียดสูง 10.3% ความเครียดปานกลาง 44.8% ความเครียดต่ำ 37.9%

159116657745

“ด้านความเชื่อมั่นในครอบครัวในการก้าวผ่านโควิด” ส่วนใหญ่เชื่อมั่นมากที่สุด โดยพบว่า ครอบครัวทั่วไป มีความเชื่อมั่นมากที่สุด 72.2% เชื่อมั่นมาก 22% และเชื่อมั่นปานกลาง 1.1% ขณะที่ ครอบครัวเปราะบาง มีความเชื่อมั่นมากที่สุด 62.1% เชื่อมั่นมาก 34.5% และเชื่อมั่นน้อย 3.4%

159116657448

สุดท้าย “ด้านความร่วมมือของครอบครัว” ส่วนใหญ่เป็นทีมเดียวกันมาก โดยพบว่า ครอบครัวทั่วไป มีความเป็นทีมเดียวกันมากถึง 65.5% เห็นไม่ตรงกันบ้าง 31.9% และไม่ค่อยเป็นทีม 2% ขณะที่ครอบครัวเปราะบาง มีความเป็นทีมเดียวกันมาก 71.4% เห็นไม่ตรงกันบ้าง 25% ไม่ค่อยเป็นทีม 3.6%

159116657422

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า กรมสุขภาพจิตได้เร่งพัฒนา “วัคซีนครอบครัว” ประกอบด้วย 3 พลัง คือ พลังบวก ครอบครัวมองมุมบวกเป็น เห็นทางออกในทุกปัญหาแม้ในยามวิกฤต พลังยืดหยุ่น ครอบครัวที่ปรับตัวได้ ปรับเปลี่ยนเป้าหมาย หรือบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระที่เกิดขึ้น และ พลังร่วมมือ ครอบครัวที่ปรองดอง เป็นทีม มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการฟันฝ่าปัญหาอุปสรรค ผ่าน “โปรแกรมวัคซีนครอบครัว” เป็นชุดกิจกรรมที่ “สนุก ง่าย ทำได้ทุกคน” ทำร่วมกันในครอบครัว เพื่อช่วยให้ครอบครัวมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจในการสร้างสุข ลดทุกข์ เป็นเกราะป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในครอบครัว ช่วยให้สามารถฟื้นตัวกลับมาเผชิญปัญหาต่ออย่างเข้มแข็ง และเป็นรากฐานของชุมชนที่เข้มแข็งต่อไป

แพทย์หญิงดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โปรแกรมวัคซีนครอบครัว ได้ถูกออกแบบไว้ 2 ลักษณะ คือ ในรูปแบบออนไลน์ สามารถแสกนคิวอาร์โค้ดและนำไปใช้ได้ และ ในรูปแบบ ออฟไลน์ชุดคู่มือ เป็นกิจกรรมที่ผู้นำหรือสมาชิกในครอบครัวชวนทำกิจกรรมกันเองในครอบครัว หรือ อสม. อพม. และผู้นำชุมชน พาทำกิจกรรมกลุ่มครั้งละ 10-15 ครอบครัวในครอบครัวกลุ่มเปราะบาง เพื่อเร่งเสริมพลังบวก พลังยืดหยุ่น พลังร่วมมือ

ประกอบด้วยกิจกรรมต้นแบบ 3 กิจกรรม ได้แก่ “กล่องพลังใจ” ช่วยเสริมพลังบวก ช่วยให้คนในครอบครัวมองเห็นว่าทุกคนต่างมีข้อดี ถ้าได้ขอบคุณกันและชื่นชมในข้อดีของกัน คนพูดก็สุขใจ คนฟังก็มีกำลังใจ อยากร่วมมือเป็นทีมเดียวกันในการสู้ปัญหา ถัดมา คือ “เกมพลังใจ” ช่วยเสริมพลังยืดหยุ่น ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวฝึกปรับตัว ปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระที่เกิดขึ้น รับฟังและช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหา “ต้นไม้พลังใจ” ช่วยเสริมพลังร่วมมือผ่านการสังเกต รับฟัง และไว้ใจกัน ช่วยให้คนในครอบครัวปรองดอง เป็นทีม มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ใช้ความเก่งของทุกคนในบ้านมาช่วยกันฟันฝ่าปัญหาอุปสรรค แม้จะปิดตาจนมองไม่เห็น ก็ยังสามารถปลูกต้นไม้ด้วยกันได้ สิ่งที่เรียนรู้ทั้งหมดจะถูกนำกลับไปทำต่อที่บ้านผ่านบันทึกวัคซีนครอบครัวเพื่อให้ครอบครัวฝึกสร้างวัคซีนอย่างต่อเนื่อง จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันทางใจอย่างถาวร

159116657352

ประชาชนสามารถติดตามผลการดำเนินกิจกรรมวัคซีนครอบครัวในรูปแบบเรียลลิตี้ในรายการ “บ้านพลังใจ ตอน บ้านเล็กจอมพลัง” กับครอบครัวกลุ่มเปราะบาง 30 ครอบครัวจาก 3 ตำบล ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากผลการดำเนินงานพบว่า สัดส่วนครอบครัวที่มีความเครียดสูงมากมีแนวโน้มลดลง ครอบครัวมีความสุขมากขึ้นจากการเสริมสร้างพลังบวกให้กัน สมาชิกในครอบครัวได้ “ขอบคุณกัน” “ชื่นชมกัน” “รู้สึกใกล้ชิดกัน” และ “ร่วมมือกัน” มากขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเสริมสร้างวัคซีนใจในครอบครัวให้ครอบครัวแข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดีต่อไป

ทั้งนี้ ครอบครัวหรือชุมชนอาจพัฒนากิจกรรมอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างทั้ง 3 พลังได้จากวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น และเชิญชวนให้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนผลการนำวัคซีนครอบครัวไปใช้ และร่วมสนุกกับกิจกรรมในเฟซบุ๊คเพจ บ้านพลังใจ https://www.facebook.com/Baanpalangjai/