สศช.เปิดความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจชายแดน5ปี

สศช.เปิดความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจชายแดน5ปี

สศช.เปิดความคืบหน้าเขตเศรษฐกิจชายแดน5ปี มีมูลค่าลงทุน2.4หมื่นล. เป็นธุรกิจตั้งใหม่4,223ราย ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี โดยได้งบรัฐใส่ลงไปตั้งแต่59-63กว่า4.1หมื่นล.พบโครงสร้างพื้นฐานเสร็จ70%

รายงานข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษใน10พื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ พบว่า จากข้อมูลตั้งแต่ปี58จนถึงเดือนพ.ค.63มีมูลค่าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งหมด24,699ล้านบาทในส่วนนี้ เป็นการจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม4,223ราย คิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม8,409ล้านบาทโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี สูงถึง98%มีประเภทกิจการ ทั้ง ก่อสร้างอาคารทั่วไป โลจิสติกส์ ผลิตเสื้อผ้า อสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุดผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผลิตไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์จากไม้แปรรูป

อย่างไรก็ดีนอกจากการจัดตั้งธุรกิจใหม่แล้ว ยังมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อีก75โครงการ วงเงิน11,043ล้านบาท ทั้ง เสื้อผ้าสำเร็จรูป พลาสติก อาหารสัตว์ยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน อุปกรณ์ก่อสร้าง โรงพยาบาล,มูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อพัฒนาที่ดินราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด กาญจนบุรี และนครพนม รวม5,106ล้านบาทและการขอใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนของกรมศุลกากร 2โครงการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากและสงขลา วงเงินรวม140ล้านบาท

ขณะที่แผนงบประมาณบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์เรื่่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ พบว่า การพัฒนาโครงการสำคัญในพื้นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณระหว่างปี59-63รวมทั้งสิ้น41,998ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณในปี59รวม6,168ล้านบาท ในปี60รวม10,267ล้านบาท ในปี61รวม9,883ล้านบาท ในปี62รวม8,757ล้านบาทและในปี63รวม6,920ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ด่านศุลกากร ความมั่นคง พัฒนาระบบประปา การผังเมือง และสาธารณสุข

ขณะที่แผนงบประมาณบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์เรื่่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ พบว่า การพัฒนาโครงการสำคัญในพื้นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณระหว่างปี59-63รวมทั้งสิ้น41,998ล้านบาท โดยได้รับจัดสรรงบประมาณในปี59รวม6,168ล้านบาท ในปี60รวม10,267ล้านบาท ในปี61รวม9,883ล้านบาท ในปี62รวม8,757ล้านบาทและในปี63รวม6,920ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ด่านศุลกากร ความมั่นคง พัฒนาระบบประปา การผังเมือง และสาธารณสุข

ส่วนการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ล่าสุดได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ ระหว่างเดือนต.ค.60 – 25ก.พ.63ทุกสัญชาติ รวม385,487คน แยกเป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานในลักษณะไป-กลับหรือตามฤดูกาล344,478คน เป็นแรงงานกัมพูชา155,361คน และแรงงานเมียนมา189,117คน

ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจุบันมีความก้าวหน้าการดำเนินงานเฉลี่ย70%และมีโครงการสำคัญจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงปี62-65โดยโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เช่น ทางหลวงหมายเลข12ตากแม่สอด แล้วเสร็จทั้งเส้นในปี62อาคารท่าอากาศยานแม่สอด ก่อสร้างแล้วเสร็จปี62สะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่2เปิดใช้งานแล้วเมื่อต.ค.62ด่านศุลกากรและระบบอำนวยความสะดวกการผ่านแดน เช่น ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี62ด่านพรมแดนแม่สอดแห่งที่2ก่อสร้างแล้วเสร็จปี62

ด่านบ้านพุน้ำร้อน ก่อสร้างแล้วเสร็จจะเปิดให้บริการปี63และมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น ด่านศุลกากรแม่สอด แห่งที่2ถนนแยก ทล.4 –ด่านสะเดา แห่งที่2อาคารที่ทำการด่านศุลกากรเชียงแสนแห่งใหม่และสิ่งปลูกสร้างประกอบ และการขยายรันเวย์ สนามบินแม่สอดให้สามารถรองรับเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โบอิ้ง737คาดว่าจะแล้วเสร็จปี63