'พุทธิพงษ์' แจงแอปไทยชนะ ไม่เกี่ยวข้อความสแปมในมือถือระบบ iOS

'พุทธิพงษ์' แจงแอปไทยชนะ ไม่เกี่ยวข้อความสแปมในมือถือระบบ iOS

“ดีอีเอส” แจงแอปไทยชนะ ไม่เกี่ยวข้อความสแปมในมือถือระบบ iOS

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่ากรณีข้อความโฆษณารบกวนที่มีการแพร่ระบาด แข่งกับโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบว่า  โทรศัพท์ที่ได้รับเอสเอ็มเอสโฆษณารบกวนชักชวนเล่นพนัน จำนวนกว่า 99.99% เป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบ iOS และแม้จะไม่เคยใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ในสถานที่ใดๆ เลย ก็ได้รับข้อความโฆษณารบกวนเช่นกัน  

ทั้งนี้ ได้มีการส่งเรื่องหารืออย่างเป็นทางการไปยังบริษัทผู้ให้บริการระบบ iOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนโทรศัพท์มือถือไอโฟน และแท็บเล็ตไอแพด ของ Apple แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา
 

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า แอปไทยชนะ พัฒนาขึ้นมารองรับมาตรการผ่อนคลายเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ ได้ดำเนินต่อไปได้ โดยควบคุมไม่ให้แต่ละร้านมีคนหนาแน่นเกินไป จนเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด  ในแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ในความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ คือกรมควบคุมโรค เมื่อพบว่าใครติดเชื้อโควิด-19 จะตรวจสอบได้ทันทีว่าคนๆ นั้นไปที่ไหนมาบ้าง ในช่วงเวลาใด และแต่ละที่มีใครบ้าง จะได้ติดต่อไปให้เข้าสู่กระบวนการตรวจโดยละเอียด และรักษาได้ทันการ
 

ผศ.(พิเศษ) นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า แอปพลิเคชั่นไทยชนะ ที่พัฒนาโดยรัฐบาลไทยจะใช้ชื่อว่า "Thaichana - ไทยชนะ" ผู้พัฒนา คือ "Krungthai Bank PCL."
 

กระบวนการเริ่มต้นใช้งานแอปไทยชนะ 1. จะมีการขออนุญาตเปิดตำแหน่ง (Location) เพื่อค้นหาร้านค้าใกล้ตัว เพื่อทราบระยะทางแบบประมาณการ กรณีที่ผู้ใช้งานไม่ให้ Location แอปจะไม่สามารถเรียงข้อมูลตามระยะทางใกล้ตัวได่ และ 2.ขออนุญาตเปิดกล้อง เพื่อสแกนคิวอาร์โค้ด
 

โดยยืนยันว่า แอปพลิเคชั่นไทยชนะ ไม่ได้เข้าถึงที่เก็บข้อมูล หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล รวมไปถึงไม่มีการส่งข้อมูลพิกัด Location ของผู้ใช้งานออกไปแต่อย่างใด
 

“ไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่ถูกส่งไปยัง server นอกเหนือจากที่ขอ เราขอเพียงเปิดกล้องเพื่อสแกนคิวอาร์โค้ด และโลเคชั่นเพื่อเช็คอิน ขณะที่ในส่วนของความปลอดภัยในเรื่องป้องกันข้อมูลรั่วไหลของแอป และมาตรฐานความปลอดภัยที่แอปมือถือต้องทำ (Certification Pinning) ซึ่งเป็นวิธีการทางเทคนิคที่ป้องกันการดักจับหรือดักเอาข้อมูล ย้ำว่าไม่มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลส่งไปที่อื่น นอกเหนือจากที่ขออนุญาต ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในแพลตฟอร์มไทยชนะ จะถูกนำไปใช้กับกรมควบคุมโรคและรัฐบาล แต่ไม่ถูกใช้ในการอื่น นอกเหนือจากเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19” นพ.พลวรรธน์กล่าว
 
                   

สำหรับปัญหาข้อความ SMS สแปมที่ส่งเข้ามาทาง iMessage บนไอโฟนและไอแพด ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก iPhone Thailand ได้ให้คำแนะนำวิธีการจัดการกับเอสเอ็มเอสโฆษณารบกวนทาง iMessage ระบุว่า จากกรณีดังกล่าวทาง Apple ให้แจ้งไปยังผู้ให้บริการมือถือ ทำการบล็อกไม่ให้ส่งโฆษณา เนื่องจากเอสเอ็มเอสแปมเหล่านี้ ส่งผ่านมาทาง iMessage ซึ่งเป็นแอปที่อยู่บนอุปกรณ์พกพาที่ใช้ระบบ iOS ของ Apple โดยเบื้องต้นแนะนำปิดรับข้อความ iMessage วิธีการเข้าไปตั้งค่า และ Report  มีวิธีดำเนินการ 3 แบบ
 

ได้แก่ แบบที่ 1 คลิกที่ด้านบนที่โชว์ว่า “3 คน” จากนั้นเลือก “ข้อมูล” และคลิก “กดออกจากการสนทนา” 2 รอบ จากนั้นกดเสร็จสิ้น ก็กด “ แจ้งว่าเป็นขยะ” แบบที่ 2 เข้าไปที่ “การตั้งค่า” เลือก “ข้อความ” จากนั้นคลิกที่ “ฟิลเตอร์ผู้ส่งที่ไม่รู้จัก” และแบบที่ 3 สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้ iMessage ให้เข้าไปที่  “การตั้งค่า” เลือก “ข้อความ ” จากนั้นคลิกปิด “iMessage” ซึ่งในข้อนี้หากต้องการใช้งานแอป iMessage ก็สามารถกลับมาเปิดใหม่ได้
 

“เน้นย้ำว่า ขอทุกท่านอย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเพราะความประมาท อย่าหลงเชื่อตัวล่อ เช่นเงินรางวัล ของฟรี  และไม่แนะนำให้ทดลองเปิดเว็บไซต์ เพราะข้อความนั้นอาจเป็นพาหะนำพาไวรัสคอมพิวเตอร์เข้าสู่โทรศัพท์ของท่านได้” รมว.ดีอีเอสกล่าว
 
                 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ได้แจ้งเตือนว่า พบแอปพลิเคชั่นที่ใช้โลโก้และชื่อคล้าย ไทยชนะ เผยแพร่บน Google Play Store โดยอ้างว่าใช้เพื่อสแกน QR code ณ เวลาที่พบมียอดดาวน์ โหลดไปแล้วประมาณ 1,000 ครั้ง
 

อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชั่นดังกล่าวไม่ใช่แอปพลิเคชั่นทางการ ของศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) ดังนั้น ผู้ใช้ควรพิจารณาก่อนดาวน์โหลด ซึ่งจากการตรวจสอบ แอปพลิเคชั่นนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อแสดงโฆษณา โดยมีการขอสิทธิที่อาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวหรือการใช้งาน ได้ เช่น โทรออก เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ และแก้ไขการตั้งค่า launcher ในเครื่อง
 

สำหรับรายงานภาพรวมการใช้งานไทยชนะเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 63 มีจำนวนกิจการที่ลงทะเบียน 133,694 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งานรวม 18,587,269 คน แบ่งเป็น การเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ไทยชนะ 18,523,417 คน และเข้าใช้งานผ่านแอปไทยชนะ63,852 คน ขณะที่ แอปไทยชนะ มียอดการดาวน์โหลดแล้ว 120,076 ครั้ง