Sideways Down

Sideways Down

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1362 / 1370 จุด แนวรับ 1342 / 1330 จุด ปัจจัยบวก คือ เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัว หลังผ่อนคลาย lockdown ปัจจัยลบ คือ การเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หลังจากจีนเตรียมชะลอนาเข้าสินค้าเกษตร เพราะสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในประเทศ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

        1) ทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ คาดเปลี่ยนแปลง หลังเตรียมเลือกตั้งผู้บริหารใหม่ใน 45 วัน

        2) การตอบโต้ทางการค้าของจีน เพิ่มความขัดแย้งกับสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบต่อสัญญา Phase One Deal ถูกยกเลิกในอนาคต

        3) กลุ่มโอเปคเสนอให้ประชุมเร็วขึ้นเป็นวันพฤหัสฯ นี้ เพื่อพิจารณาลดการผลิตน้ามันดิบที่เดิม 9.7 ล้านบาร์เรลต่อไป (จากเดิมลดลง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2020)

        4) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 กว่า 1.39 พันล้านบาท

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Australia-ผลประชุมธนาคารกลางคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.25% เกาหลีใต้-1Q20E GDP ครั้งสุดท้ายคาด -1.4% QoQ (Vs 4Q19 +1.3%) ส่วนวันพุธ USA-Markit Servcie PMI เดือน พ.ค. 36.9(Vs เดือน เม.ย. 26.7) จีนCaixin Service PMI เดือน พ.ค. คาด 48.6 (Vs เดือน เม.ย. 44.4) ญี่ปุ่น-Jibun Bank Service PMI เดือน พ.ค. คาด 25.3 (Vs เดือน เม.ย. 21.5) สหรัฐฯ-ISM non-Mfg PMI เดือน พ.ค. คาด 44 (Vs เดือน เม.ย. 41.8) คำสั่งซื้อโรงงาน เดือน เม.ย. คาด -12.5% MoM (Vs เดือน มี.ค. -10.3%) การจ้างงานภาคเอกชน เดือน พ.ค. คาด –9 ล้านราย (Vs เดือน เม.ย. -20.236 ล้านราย)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวมาปิดที่ระดับ 1352.37 จุด +9.52 จุดหรือ +0.71% วอลุ่ม 6.51 หมื่นล้านบาท หลังจากระหว่างวันขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 1362.46 จุด +19.61 จุด กลุ่มปิโตรฯ +4.18% เกษตรฯ +3.85% ธนาคาร +2.12% หลักทรัพย์ที่ปรับขึ้น >5% SUPER TASCO PTG GLOBAL PLANB PRM PTTGC BBL JMART STA DEMCO ส่วนหุ้นปรับตัวลง >4% KTC BRR SPACK PHOL

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: การคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หลังผลกระทบ COVID-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นโลก DJ +0.36% S&P500 +0.38% Nasdaq +0.66% นำขึ้นโดยกลุ่มที่ได้จากการเปิดธุรกิจใหม่ เช่น โรงแรม สายการบิน เรือสาราญ ฯลฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง FTSE +1.48% CAC40 +1.43% หลังรายงานภาคการผลิตฟื้นตัว นำขึ้นโดยหุ้นกลุ่มอิงวัฏจักรเศรษฐกิจ กลุ่มธนาคาร เหมืองแร่ น้ำมัน การเดินทาง

+/- น้ำมันดิบและทองอ่อนตัวเล็กน้อย: WTI -USD0.05 -0.14% ปิดที่ USD35.44/บาร์เรล Brent +USD0.48 +1.3% ปิดUSD38.32/บาร์เรล ข่าวบวก คือ กลุ่มโอเปคพลัสอยู่ระหว่างการเจรจาลดการผลิตน้ำมันดิบ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อไป ส่วนข่าวลบ คือ ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่วนทองคำลดลง -USD1.40 -0.08% ปิด USD1,750.30/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update วันที่ 1 มิ.ย.: สรุปผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุด มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6.2 ล้านราย เสียชีวิต 3.72 แสนราย สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.8 ล้านราย เสียชีวิต 1.04 แสนราย

- US-China: รัฐบาลจีนสั่งบรรดาบริษัททางเกษตรรายใหญ่ในประเทศ ยกเลิกการสั่งซื้อสินค้าทางการเกษตรจากสหรัฐ ฯชั่วคราว อาทิ ถั่วเหลือง ฯลฯ เพื่อตอบโต้

- USA: CNN รายงานกว่า 40 เมือง ในสหรัฐฯ ประกาศเคอร์ฟิว ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศหมายให้กลุ่มซ้ายจัด Antifa เป็นองค์กรก่อการร้ายและเตรียมส่งกองกำลังทหารเข้าประจำการเพื่อยุติการจลาจลและการปล้นสดมภ์

+ วัคซีน: บริษัท Gilead เผยผลทดสอบเฟส 3 พบว่า 65% ของคนป่วยปานกลางจาก COVID-19 ที่ให้ยา 5 วัน จะฟื้นตัวได้ในวันที่ 11 ส่วนบริษัท Eli Lilly เริ่มทดสอบวัคซีนเฟสแรก โดยคาดว่าจะทราบผลทดลองสิ้นเดือน มิ.ย.

+ ไทย: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันจันทร์เพิ่มขึ้น 1 ราย อยู่ในสถานกักกันทั้งหมด (Vs อาทิตย์ที่ผ่านมา 4 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,082 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต

- การเมืองไทย: กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเกินครึ่งหนึ่งของทั้งหมด 34 ท่าน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเรียกประชุมใหม่ ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ 1 มิ.ย. 2020 และส่งผลต่อการปป.ตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคต และอาจกระทบต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ในช่วง 3Q20E

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: OSP STEC INTUCH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BBL KBANK CPALL CK IVL PTTEP SCC TASCO

Derivatives: แนะเปิด Long S50M20 เก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)