ยังให้น้ำหนักบวกกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มากกว่าความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน

ยังให้น้ำหนักบวกกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มากกว่าความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน

ความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน ยังไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญ

รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้หน่วยงานรัฐ ชะลอการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯชั่วคราว เพื่อตอยบโต้ประเด็นการแทรกแซงฮ่องกง ซึ่งอาจสร้างความตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ อย่างไรก็ตามสถานการณ์จราจลในหลายเมืองของสหรัฐฯ ทำให้คาดว่าระดับความตึงเครียด และการตอบโต้ในระยะสั้นจะยังไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ โดยรวมยังแกว่งตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการผลิต พ.ค.ที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดให้น้ำหนักกับประเด็นโมเมนตัมทางเศรษฐกิจผ่านจุดที่แย่ที่สุด ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี

การเปลี่ยนแปลงภายในพปชร.กระทบความเชื่อมั่น โดยการลาออกของกรรมการบริหาร 18 คน (เกินกึ่งหนึ่งของ 34 คน) ทำให้กรรมการบริหารชุดปัจจุบันพ้นตำแหน่ง และต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารใหม่ใน 45 วัน แต่การปรับครม.หรือเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลคาดจะใช้เวลานานกว่านั้น อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคาดจะทำให้เกิดความกังวลถึงความต่อเนื่องของมาตรการทางเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ได้ ขณะที่ผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อาจกระทบต่อโครงการพลังงานทดแทน แต่คาดบวกต่อจิตวิทยาหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่

กลุ่มอาหาร – จีนลดนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ คาดส่งผลบวกทางจิตวิทยามากกว่าผลดีที่ชัดเจน โดย ราคาถั่วเหลืองบราซิลที่สูงขึ้นอาจบวกต่อ TVO ขณะที่ธุรกิจ CPF ที่จีนเน้นอาหารสัตว์ จะได้ผลดีโดยอ้อมจากเนื้อหมูในจีนที่ราคาสูงจากผลของโรคหวัดหมูแอฟริกัน

กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ - มีความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงราคาทองแดงที่ขยับขึ้นตามการฟื้นตัวของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ทั่วโลก

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ 1) กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ดี/ดีกว่าอุตสาหกรรม ได้แก่ IVL, SCC, STA, TIP, VRANDA 2) หุ้นกำไรมั่นคง (defensive) GPSC, BCPG, RATCH, BCH, CHG, SSP, SUPER 3) กลุ่มประกันภัย TIP และ THRE 4) กลุ่มการเงินที่ยังไม่แพง BFIT, AMANAH 5) กลุ่มธนาคาร ชอบ BBL และ KBANK

ภาพรวมกลยุทธ์ มีโอกกาสฟื้นตัวหลังความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนระยะสั้นทรงตัว ขณะที่การฟื้นของ PMI บวดต่อพลังงานและปิโตรเคมี ทั้งนี้การเก็งกำไรในกรอบ 1300-1400 จุด ควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF*, BCH*, BBL*

แนวรับ 1,345/ แนวต้าน : 1,360 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

จีนสั่งระงับนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ หลายรายการ เพื่อโต้กลับกรณีสหรัฐฯประกาศที่จะยุติการให้สถานะการค้าพิเศษกับทางฮ่องกง โดยการกระทำดังกล่าวนับเป็นการละเมิดสัญญาการค้าเฟส 1 ที่ทั้งสองประเทศได้เซ็นต์กันไว้เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา

ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ฟื้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 11 ปี ISM รายงาน ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 43.1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 43.0 โดยฟื้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 11 ปี

ความเชื่อมั่นธุรกิจ เดือน พ.ค.เพิ่มเล็กน้อย ธปท.รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือน พ.ค. อยู่ที่ 34.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบในหลายธุรกิจ ยกเว้นกลุ่มผลิตเคื่องจักรและอุปกรณ์ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

18 กรรมการ พปชร. ลาออก มีผล 1 มิ.ย.63 เป็นต้นไปเป็นเหตุให้จำนวนกรรมการบริหารพรรคว่างลงเกินกึ่งหนึ่งของกรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐทั้งหมดมีผลทำให้กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐทั้งคณะพ้นตำแหน่ง

BEM - จะปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิ ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ 1 บาท ในบางสถานี เป็นไปตามอัตราเงินเฟ้อ ที่กำหนดในสัญญาสัมปทาน

ประเด็นติดตาม: 4 มิ.. – ECB meeting / 5 มิ.. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ / 10 มิ.. – OPEC meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)