‘สมพร’ หวังปั้น ‘TIP Coin’ สู่ ‘เงินดิจิทัล’ แบบไร้รอยต่อ

‘สมพร’ หวังปั้น ‘TIP Coin’  สู่ ‘เงินดิจิทัล’ แบบไร้รอยต่อ

หากกล่าวถึง “สกุลเงินดิจิทัล” หรือ คริปโตเคอร์เรนซี ( cryptocurrency) กับวงการธุรกิจประกันภัย เชื่อว่าหลายคนเริ่มนึกถึง “TIP COIN” ของบิ๊กประกันวินาศภัยอย่าง “ทิพยประกันภัย” กันแน่นอน เพราะเรียกได้ว่าเป็น “เหรียญดิจิทัล” รายแรกของอุตสาหกรรมประกันภัย

โดย การถือกำเนิดของ "TIP COIN" ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ที่เร่งให้ TIP COIN ในเฟสแรกออกมาเร็วกว่ากำหนด เพราะเดิมตั้งใจว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี

TIP COIN เฟสแรกยังเป็นกึ่งๆ เงินดิจิทัล ซึ่งจะเรียกให้ชัดๆ ก็คือเป็น “ยูทิลิตี้โทเคน” สำหรับใช้แลกเปลี่ยนภายในอีโคซิสเต็มของทิพยประกันภัยเท่านั้น เป็นเพียงการสร้างเครือข่ายวงจรธุรกิจเพิ่มเข้ามา Network of customers มากขึ้น

เช่น ช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้เปิดให้ลูกค้าที่ถือประกันภัยโควิด-19 ซึ่งตอนนี้กว่า 3 ล้านกรมธรรม์ สามารถคืนเบี้ยประกัน โดยแลกรับเป็น TIP COIN ในมูลค่าเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าชำระ 100% และยังสามารถคงความคุ้มครองตามเดิม อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมายตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด

“สมพร สืบถวิลกุล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย ผู้ดีไซน์ TIP COIN บอกกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ในอนาคต TIP COIN จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลอย่างแน่นอน

"สมพร" มีมุมมองต่อตลาดเงินดิจิทัลว่า หลังจาก “จีน” ผลักดัน “ดิจิทัลหยวน” และ “เฟสบุ๊ก” ของสหรัฐเข็น “ลิบรา เวอร์ชั่น 2.0” ออกมา ทำให้คนทั่วไปยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ในอนาคตหากนิยมใช้เป็นวงกว้า ถึงเวลานั้นเราก็จะตามไป 

"ตอนนี้เราได้ศึกษาโมเดลในต่างประเทศและข้อกฎหมายเตรียมความพร้อมเอาไว้ เพราะเราก็ไม่อยากตกขบวน หากหน่วยงานกำกับในไทยอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีกติกาออกมาชัดเจนและไฟเขียวให้ใช้การได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว เราก็พร้อมทำได้เลย"

สำหรับโมเดลผลักดัน TIP COIN เข้าสู่วงการเงินดิจิทัล คาดว่า น่าจะทำเหมือน ลิบราของเฟชบุ๊ก เพราะมองว่า เงินดิจิทัล แบบ “สเตเบิลคอยน์” (Stablecoin) มีสินทรัพย์หนุนหลังในทุกๆ เหรียญที่ผลิตออกใช้ ซึ่งแตกต่างจากเหรียญอื่นๆ ซึ่งเหรียญรูปแบบนี้ จะมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากกว่า ถือเป็นผลดีต่อตัวธุรกิจประกันเองและผู้ซื้อขาย รวมทั้งน่าจะช่วยป้องคนที่จะเข้าเก็งกำไรจากการจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างกันได้

“เงินดิจิทัลแบบเหรียญที่ไม่มีสินทรัพย์หนุนหลัง ทุกวันนี้เราจะเห็นว่า เหรียญพวกนี้มีราคาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สุดท้ายแล้วก็ทำให้เหรียญนั้นก็จะกลายเป็นเพียงหุ้นตัวหนึ่ง ที่ไม่มีผลประกอบการใดๆทั้งสิ้น คนเข้าไปซื้อเองก็จะมีความเสี่ยงจากเก็งกำไรและอาจถูกนำไปสู่กระบวนการทุจริต อย่างแชร์ลูกโซ่ ตรงนี้ไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจประกันแน่ๆ”

ทางด้านโมเดลธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ ที่ใช้เป็นต้นแบบในการศึกษาและพัฒนา TIP COIN ครั้งนี้ “สมพร” บอกว่า เราใช้ศึกษาโมเดลธุรกิจประกันภัยของสหรัฐ ชื่อ keiko insurance และ lemonade insurance ก็ยังเป็นเงินดิจิทัลที่ใช้งานแบบ “ยูทิลิตี้โทเคน” แต่มีการใช้งานกว้างขวางมาก เชื่อมต่อไปในหลายนอกอีโคซิสเต็มท์ของตัวเองแล้ว และเชื่อว่ากำลังพัฒนาเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยเช่นกัน

สมพร มองว่า ในระยะถัดไปอันใกล้นี้ TIP COIN ก็ต้องพัฒนาไปใช้นอกอีโคซิสเต็มส์ของทิพยประกันภัย เช่น บริษัทเครือข่ายพันธมิตรของเรา หรือคปภ. สามารถนำ ยูทิลิตี้โทเคนมาของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยน หรือใช้แลกสินค้าหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆระหว่างกัน โดยกำหนอัตราแลกเปลี่ยนของมูลค่าคอยน์เอาไว้ใช้ร่วมกันอย่างชัดเจน หวังว่า การใช้งานลักษณะนี้จะได้รับความนิยมและขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นถึงนำไปสู่แลกเปลี่ยนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เป็นเงินดิจิทัลอย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ “สมพร” ยังบอกด้วยว่า การเตรียมความพร้อม ทั้งของบริษัทและลูกค้า กับก้าวแรกของ TIP COIN ในครั้งนี้ จะสร้างความคุ้นเคยการใช้งานเอาไว้ก่อน เพราะเมื่อวันหนึ่งที่มีการเปลี่ยนผ่านไปใช้เงินสกุลดิจิทัลเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ เราก็จะเปลี่ยนผ่านได้“แบบไร้รอยต่อ” ไม่สะดุดขาตัวเอง