ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1360 / 1366 จุด แนวรับ 1333 / 1323 จุด ปัจจัยบวก คือ การผ่อนคลายต่อความขัดแย้งการค้าจีนกับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้พาดพิงไปถึงข้อตกลง Phase One Deal และเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัว หลังผ่อนคลาย lockdown ปัจจัยลบ คือ เหตุประท้วงรุนแรงในหลายรัฐสหรัฐฯ ตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน อาจส่งผลต่อการระบาดรอบสองเร็วขึ้นในสหรัฐฯ และความตึงเครียดต่อการค้าจีนกับสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ และ UK เรียกร้องต่อ UNSC กรณีจีนประกาศกฎหมายมั่นคงฮ่องกง

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

1) ตลาดคลายวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์แถลงเพียงให้คณะทำงานเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของ HK

2) เหตุจลาจลในสหรัฐฯ จากกรณีคนผิวสี อาจลุกลามกลายเป็นปัญหารุนแรงในประเทศ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการระบาดรอบสองในสหรัฐฯ

3) แรงซื้อสุทธิครั้งแรกของต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. กว่า 5.5 พันล้านบาท เป็น โมเมนตัมบวกตลาด (หรืออาจเกิดชั่วคราว จากการปรับพอร์ตตามดัชนี MSCI วันศุกร์)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: รายงานภาคการผลิตเดือน พ.ค. Mfg. PMI Mfg.: ญี่ป่น ครั้งสุดท้าย คาด 38.4 (Vs เดือน เม.ย. 41.9) / อียู ครั้งสุดท้าย คาด 39.5 (Vs เดือน เม.ย. 33.4) /จีน คาด 49.6 (Vs เดือน เม.ย. 49.4) / USA Markit Mfg. PMI. ครั้งสุดท้าย คาด 39.8 (Vs เดือน เม.ย. 36.1) , ISM Mfg PMI พ.ค. ครั้งสุดท้าย คาด 43 (Vs เดือน เม.ย. 41.5)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยร่วงไปต่ำสุดที่ 1323.12 จุด -14.39 จุด ก่อนขึ้นมาปิดที่ 1342.85 จุด +5.34 จุด +0.4% วอลุ่ม 9.62 หมื่นล้านบาท กลุ่มไฟแนนซ์ +2.04% การแพทย์ (โรงพยาบาล) +1.98% หลักทรัพย์ที่ปรับขึ้น >4% MTC SUPER BEAUTY ERW BEC SINGER RSP BIZ VCOM HFT MONO

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: DJ -0.07% S&P500 +0.48% Nasdaq +1.29% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว หลังการแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ เพียงแค่ให้คณะทำงานเริ่มกระบวน การลดสถานะพิเศษด้านการค้าของ HK โดยไม่พาดพิงไปถึงผลกระทบต่อ Phase One Deal ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง DAX -1.65% FTSE -2.29%

+ น้ำมันดิบและทองฟื้นตัว: WTI +USD1.78 +5.3% ปิดที่ USD35.49/บาร์เรล Brent +USD0.04 +0.1% ปิด USD35.33/บาร์เรล จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันดิบโลก ส่วนทองคำพุ่งแรง +USD23.40 +1.35% ปิดUSD1,751.70/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย วิตกปัญหาฮ่องกง

ประเด็นสำคัญ

+ วัคซีน: บริษัท Moderna แจ้งว่า บริษัทฯ เริ่มให้ยาทดสอบวัคซีนต่อต้านไวรัสฯ เฟส 2 แล้ว ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

+/- ไทย: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันอาทิตย์เพิ่มขึ้น 4 ราย อยู่ในสถานกักกันทั้งหมด (Vs วันเสาร์และวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1 ราย และ 11 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,081 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม และผลประชุมศบค. เมื่อวันศุกร์มีมติ ผ่อนปรนเฟส 3 เพิ่มเติม อาทิ โรงภาพยนตร์ สปา ฯลฯ ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้า ถึง 21: 00 น. และลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23:00-03:00 น.

- USA: เหตุจลาจลในสหรัฐฯ อาจลุกลามบานปลายและทำให้การระบาดรอบ 2 ของไวรัสฯ เพิ่มสูงขึ้น-กระแสต่อต้านการเหยียดสีผิวในสังคมอเมริกันที่ถูกปลุกขึ้นจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ จากการกระทาเกินกว่าเหตุของตารวจ เริ่มลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตเพิ่มเติมเมื่อวันเสาร์ เรียกผู้ชุมนุมประท้วงในเมืองมินิโซต้าว่าเป็นพวกโจรที่มาเพื่อก่อสร้างปัญหา โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีจอร์จ ฟลอยด์

+ FED: ประธานเฟด Powell เผยการระบาดรอบสองของไวรัสฯ จะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ แต่เฟดยืนยันจะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะเป็น ครั้งแรกที่เฟดจะปล่อยกู้โดยตรงให้แก่ภาคธุรกิจ

- USA: ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า HK ไม่มีอิสระในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอที่จะได้รับสถานะการปฏิบัติเป็นพิเศษที่สหรัฐฯ ได้มอบให้อีกต่อไป และสั่งให้คณะทำงานเริ่มกระบวนการยกเลิก ยกเว้นสถานะพิเศษด้านการค้าของ HK เพื่อตอบโต้จีนที่วางแผนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ฉบับใหม่ในฮ่องกง

+/- China: สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานภาคการผลิตเดือน พ.ค. ลดลง และแย่กว่าคาดเป็น 50.6 (Vs คาด 51 และเดือน เม.ย. 50.8) แต่ภาคบริการ NBS Non-Mfg PMI เดือน พ.ค. ดีขึ้น และดีกว่าคาดเป็น 53.6 (Vs คาด 52.5 และเดือน เม.ย. 53.2)

+ ไทย: สภาผู้แทนฯ มีมติเมื่อวันอาทิตย์ โหวตสนับสนุน พ.ร.ก. กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท โดยได้เสียงสนับสนุน 274-275 เสียงเกินกึ่งหนึ่งของทั้งหมด

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: OSP STEC INTUCH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: NVDR (ADVANC, BDMS, BGRIM, BJC, CPALL, CPN, CRC, OSP, SAWAD, SCC, STEC, TU) / TTW BPP (คาดเพิ่มคานวณ SET50)

Derivatives: แนะปิดสถานะ Short S50M20 ที่ป้องกันความเสี่ยงไว้ในสัปดาห์ก่อน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)