กลยุทธ์การลงทุน (1 มิ.ย.63)

กลยุทธ์การลงทุน (1 มิ.ย.63)

พอร์ตหุ้นแนะนำ มิ.ย. - เน้นธีมเปิ ดเมืองเฟส 3-4 และหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก

พอร์ตหุ้นแนะนำ พ.ค. ปรับขึ้น 6.6% และโดดเด่นกว่าตลาดโดยรวม

ด้วยอานิสงส์จากการที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ดีในเดือนพฤษภาคม พอร์ตหุ้นของเราจึงขยับขึ้นมา 6.6% ซึ่งดีกว่าดัชนี SET ที่ขยับขึ้นเพียง 2.6% โดยหุ้นในพอร์ตของเราที่ราคาขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้แก่ TFG ซึ่งผลประกอบการ 1Q63 ออกมาดี และ CPN* ซึ่งได้อานิสงส์จากสภาวะด้านบวกเนื่องจากได้รับ
อนุญาตให้กลับมาเปิดห้างสรรพสินค้าได้ ทั้งนี้หุ้นทั้งสองตัวนี้วิ่งขึ้นมาจนถึงราคาเป้าหมายของเราในช่วงก่อนสิ้นเดือนเล็กน้อย และเราได้ปิดสถานะการถือหุ้นสองตัวดังกล่าว ณ ราคาเป้าหมาย ส่วนหุ้น CPALL* ขยับลดลง 2.1% เนื่องจากผลประกอบการ 1Q63 ไม่น่าตื่นเต้น ทั้งนี้ สำหรับงวด 5M63 พอร์ต
หุ้นของเราลดลง 11.2% แต่ยังคงเด่นกว่าดัชนี SET ที่ลดลง 13.1% YTD

มุมมองตลาดหุ้นเดือน มิ.ย. น่าจะไซด์เวย์ และด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ยังเป็นบวกอยู๋ เราคาดว่าตลาดหุ้นจะเกิดการเปลี่ยนกลุ่มเล่น มากกว่าจะปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ

เรามองว่าดัชนี SET น่าจะพักฐานในเดือนมิถุนายน โดยแม้ว่าดัชนี SET จะเหลือ upside ถึงเป้าปีนี้ของเราที่ 1,370 อีกแค่ 2% แต่เรามองว่าปัจจัยต่าง ๆ ในตลาดยังคงเป็นบวก และในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ราคาหุ้นที่แพงมากก็น่าจะทำให้มีการเปลี่ยนกลุ่มมากกว่าจะเกิดการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ เรามองว่าประเด็นเรื่องการกลับมาเปิดเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกอีกครั้งกำลังมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในขณะที่ยังไม่เห็นการเร่งตัวขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลกที่มีน้ำหนักมากถึงขนาดที่จะทำให้เกินความเสี่ยงที่ต้องกลับมาปิดเศรษฐกิจกันใหม่อีกรอบ สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญกับประเทศไทยเพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาภาคท่องเที่ยวอย่างสูง ในขณะเดียวกัน มุมมองว่าตลาดจะเทรดไซด์เวย์นั้นมีความเสี่ยงทางลงอยู่ 2 ประการ ได้แก่ i) สัญญาณที่ชัดเจนขึ้นว่า Covid-19 จะกลับมาระบาดระลอกสอง และ ii) ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐเลวร้ายลงกว่าที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน

หุ้นเด่นเดือนมิถุนายน: เน้นที่เฟสถัดไปของหุ้นการเปิดเศรษฐกิจ และหุ้น laggard

ในเดือนนี้ เราได้จัดธีมการเลือกหุ้นที่สอดคล้องกับมุมมองตลาดของเราสี่ธีมด้วยกัน ธีมแรก คือหุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์เฟสที่ 3 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้ และเฟสที่สี่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจในกลุ่มขนส่งมวลชนอย่างเช่น BEM* และ BTS* จากการที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ธีมที่สอง คือการเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาใน 3Q63 จะช่วยหนุนราคาหุ้นอย่างเช่น AOT* และ BDMS* ซึ่งธีมนี้จะเป็นระยะยาวมากกว่าธีมการเปิดเศรษฐกิจธีมที่สาม เราหันกลับมาหาหุ้นธนาคารอย่าง BBL* และ KBANK* ซึ่งมีโอกาสปรับขึ้นจากระดับ valuations ที่ต่ำมากในปัจจุบัน ภายใต้สมมติฐานว่าสภาพคล่องที่ล้นตลาดจะทำให้มีการซื้อขายเปลี่ยนกลุ่มเล่น (sector rotation) และธีมที่สี่ เราเลือกที่จะจำกัดความผันผวนของพอร์ตด้วยการเพิ่มหุ้นโรงไฟฟ้าเช่น EGCO* ซึ่งจะได้ประโยชน์หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในเดือนนี้