คลังเล็งออกมาตรการสินเชื่อฟื้นเศรษฐกิจ

คลังเล็งออกมาตรการสินเชื่อฟื้นเศรษฐกิจ

คลังเตรียมออกมาตรการการเงินและไม่ใช่การเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19คลี่คลาย โดยดึงแบงก์รัฐเป็นหัวหอกช่วยดูแลหนี้นอกระบบและสร้างงานในระดับพื้นที่ พร้อมเร่งตั้งกองทุนวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาทเพื่อช่วยเอสเอ็มอีรายเล็กที่เข้าไม่ถึงมาตรการซอฟท์โลน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)เริ่มคลี่คลายลง โดยจะเป็นมาตรการทั้งการเงินและไม่ใช่การเงิน โดยทั้งสองมาตรการจะต้องมีส่วนเข้าไปช่วยให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในระดับท้องถิ่น

สำหรับมาตรการทางการเงินนั้น จะเป็นมาตรการด้านสินเชื่อที่แบงก์รัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุน อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ บรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดย่อม(บสย.) โดยจะเข้าไปดูแลลูกหนี้นอกระบบไม่ให้เป็นปัญหาใหญ่ รวมถึง ดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็ก

“ที่กระทรวงการคลัเตรียมการเพื่อให้การฟื้นฟูสามารถทำได้ทันที เป็นเรื่องจำเป็นไม่ใช่โควิด-19บรรเทาแล้วเศรษฐกิจจะติดเลย ไม่ใช่ ที่เราจะทำ คือ จะดำเนินการเน้นในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็ง เน้นเกษตรอุตสาหกรรม วิสาหกิจชุมชน ดูแลหนี้นอกระบบไม่ให้เป็นปัญหาใหญ่ ให้หนี้นอกะรบบลดลงในระดับพื้นที่ โดยทีมเราไม่ทิ้งกันจะประสานทั้งหน่วยงานกระทรวงต่างๆ ให้แบงก์รัฐเป็นหัวหอกดำเนินการ ฉะนั้น เราประชุมทีมเราไม่ทิ้งกันสม่ำเสมอ และทุกที่วางแผนไว้หมดแล้ว จะนัดประชุมอีกทีสัปดาห์หน้า”

ทั้งนี้ สำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอีนั้น ตนได้เรียกบสย.เข้ามาหารือถึงแนวทางการค้ำประกัน เพราะโครงการค้ำประกันPGS8นั้น เต็มวงเงินแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะช่วยได้แค่ไหน ฉะนั้น มาตรการการเงินจะต้องมี ไม่เพียงแค่นั้น มาตรการที่ไม่ใช่ตัวเงินก็ต้องมี ประกอบกันไป เพื่อสร้างอาชีพสร้างงาน และสอดรับกับแผนงานกระทรวงอื่น เช่น กระทรวงอุดมศึกษา​วิทยาศาสตร์​วิจัยและนวัตรกรรม(อว. )บอกมาว่า จะดูแลเรื่องหางานให้บัญฑิตจบใหม่ในพื้นที่สร้างงานในพื้นที่ แต่ต้องมีโครงการ ซึ่งคลังจะช่วยทำด้วย

เขาชี้แจงถึงซอฟท์โลนของแบงก์ชาติที่มีการระบุว่าผู้ประกอบการเข้าถึงยากด้วยว่า ต้องอธิบายว่า ซอฟท์โลนแบงก์ชาติเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่เราต้องการให้ออกเร็ว ฉะนั้น เขาก็จะให้ในกลุ่มที่มีประวัติอยู่แล้ว ทำให้ธนาคารพิจารณาได้เร็ว อย่างไรก็ตาม เราต้องมีมาตรการอื่นทยอยออก ทั้งซอฟท์โลน 1.5 แสนล้านบาทของธนาคารออมสิน ถ้าเข้าไม่ถึง เราก็ปรับไป นอกจากนี้ เราก็กำลังเตรียมจัดตั้งกองทุนช่วยเอสเอ็มอีรายเล็กที่เข้ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กำลังดำเนินการ วงเงินไม่น่าจะเกิน 5 หมื่นล้านบาท

สำหรับกรณีการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน)นั้น ตนได้รับรายงานสั้นๆจากนายจักรกฤษฎิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทยว่า ช่วงนี้ อยู่ในช่วงปรับแผนและเจรจาเจ้าหนี้ ซึ่งรวมถึงธนาคารกรุงไทย ซึ่งท่านบอกว่า ยังเดินไปได้ ไม่ได้ติดขัดอะไร ที่บอกกรุงไทยไปหักหนี้ ไม่ทราบ ขณะที่ สภาพคล่องท่านก็บอกดูแลได้อยู่