'ดาวโจนส์' ปิดไร้ทิศทาง เหตุกังวลตึงเครียดสหรัฐ-จีนฉุดการค้า

'ดาวโจนส์' ปิดไร้ทิศทาง เหตุกังวลตึงเครียดสหรัฐ-จีนฉุดการค้า

หุ้นสหรัฐ ปิดตลาดวันศุกร์(29พ.ค.)ไร้ทิศทาง โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดร่วงลง ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ก ปิดบวก ท่ามกลางความตึงเครียดของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน

ดาวโจนส์ ลดลง 17.53 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 25,383.11 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 14.58 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 3,044.31 จุดและดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 120.88 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 9,489.87 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะจัดการแถลงข่าวในวันนี้เพื่อประกาศนโยบายใหม่ของสหรัฐที่จะดำเนินการต่อจีน หลังจากที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อสั่งการให้คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐ (เอฟซีซี) ดำเนินการทบทวนเนื้อหาในมาตรา 230 ของกฎหมาย “Communications Decency Act” ซึ่งเป็นกฎหมายที่ช่วยให้แพลตฟอร์มออนไลน์ได้รับการยกเว้นจากข้อผูกพันทางกฎหมายในกรณีที่ผู้ใช้งานโพสต์ข้อความต่างๆ ลงบนแพลตฟอร์ม

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า คำสั่งของเขาจะนำไปสู่การกำหนดกฎระเบียบใหม่ภายใต้กฎหมาย “Communications Decency Act” เพื่อกำหนดให้บริษัทโซเชียลมีเดียที่ทำการเซ็นเซอร์หรือกระทำการใดๆ ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายดังกล่าวได้อีกต่อไป

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะยกเลิกวีซ่าของนักวิจัยของจีน รวมทั้งนักศึกษาจีนจำนวนหลายพันคนที่จบการศึกษาในสหรัฐ และมีความเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยของจีนที่มีความสัมพันธ์กับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ)

การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อนักศึกษาจีนจำนวน 3,000-5,000 คนจากทั้งหมดที่กำลังศึกษาในสหรัฐจำนวน 360,000 คน ซึ่งนักศึกษาจีนที่ถูกยกเลิกวีซ่าจะต้องเดินทางกลับประเทศ และผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสหรัฐ

สื่อรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอาจประกาศเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์นี้

แหล่งข่าวระบุว่า เป้าหมายของการดำเนินการในครั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างการจารกรรมและขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งชาวจีนอาจกระทำผ่านมหาวิทยาลัยของสหรัฐ